คู่มือหมอดูตาทิพเงินล้าน พลังตัวเลขพญานาคราช 999 #ดูดวงชะตา

 

คู่มือหมอดูตาทิพเงินล้าน พลังตัวเลขพญานาคราช 999

คู่มือนี้สอนวิธีสร้างเงินล้านจากออนไลน์ด้วยมือถือเครื่อง สอนให้คุณเป็นครูอาจารย์ ทำหลักสูตรขายคอร์สออนไลน์ สร้างรายได้จากคอร์สออนไลน์  จับเงินง่ายๆ จากคอร์สออนไลน์หลัก 6 ถึง 7

คู่มือนี้จะเป็นเครื่องมือให้คุณเป็นนักพยากรณ์พลังจิตที่ประสบความสำเร็จในยุคเทคโนโลยี คุณสามารถสร้างรายได้ ปันตัวเองให้เป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ แม้คุณไม่มีต้นทุนชีวิต ติดลบ คุณก็สามารถทำได้ เริ่มต้นด้วยต้นทุน 0 บาท สู่หลักล้านในยุคเทคโนโลยีง่ายๆ  ด้วยพลังจิต คุณใช้เพียงมันสมองในการเรียนรู้ทักษะพลังจิต พลังจักรวาล และความรู้ทักษาพลังตัวเลขในคู่มือนี้ คุณก็สามารถนำไปสร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวคุณเอง และเป็นผู้ให้แสงสว่างแก่ผู้คน  พลังแห่งการให้ยิ่งให้ยิ่งได้ยิ่งให้ยิ่งรวย  เมื่อคุณยิ่งให้การช่วยเหลือผู้คนมากเท่าไร รายได้ยิ่งวิ่งเข้าหาคุณอย่างไร้ขีดจำกัดมากขึ้นเท่านั้น

สถิติเงินหมุนเวียนจากอาชีพหมอดูมากว่า 1000 ล้านบาท อาชีพนี้ผลิตเงินง่าย แค่คุณรู้สูตรลับให้ตัวเองอยู่ในกลุ่มผู้โชคดีมีรายได้สูงสุด 



จากประสบการณ์ตรงสร้างรายได้จากอาชีพนี้หลัก  6 ถึง หลัก 7 ได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึงหนึ่งปี  จึงได้ทำสูตรลับเป็นคู่มือนี้ให้แก่นักพยากรณ์ หรือผู้สนใจศึกษาพลังจิตด้านวิทยาศาสตร์และศาสตร์แห่งพลังตัวเลข พร้อมทั้งสูตรลับวิธีการสร้างรายได้ในยุคกระแสออนไลน์ไว้ด้วย

นักพยากรณ์รุ่นใหม่รู้ทันกระแสแห่งยุคดิจิทัลคุณจะดึงดูดเงินอย่างง่ายดาย และหากคุณรู้เคล็ดลับสร้างความสำเร็จนำมาใช้กับอาชีพนักพยากรณ์ชีวิตของคุณจะพลิกเปลี่ยนไปทันที คุณจะสามารถเนรมิตความสำเร็จ สร้างรายได้แบบไร้ขีดจำกัดด้วยคู่มือนี้ได้  คู่มือนี้ได้รวมสูตรลับกฎแรงดึงดูดที่รับรองผลลัพธ์ด้วยวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลกสร้างมหาเศรษฐี ผู้ร่ำรวยจำนวนมากมายมาแล้วมาเป็นเครื่องมือเส้นทางลัดสร้างความสำเร็จให้กับคุณ

คู่มือนี้จะเป็นคัมภีร์ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต มันจะช่วยสร้างให้ตัวคุณเป็นผู้สำเร็จง่ายๆ ด้วยมือถือเครื่องเดียว   แค่รู้ถึงปัญหาผู้คนส่วนใหญ่ ให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาผู้คนจากอาชีพนี้รายได้จะไหลเข้ามาหาคุณ  คนส่วนใหญ่ทุกข์เพราะไม่เข้าใจเรื่องพลังธรรมชาติในโลกใบนี้ และพลังจิตภายในตัวเอง จึงใช้ชีวิตไปตามดวงชะตา เมื่อมีความทุกข์ เศร้า เครียด วิตกกังวลมักจะวิ่งเข้าไปหาหมอดู หรือนักพยากรณ์  ดังนั้น นักพยากรณ์โหราศาสตร์จึงมีบทบาทสำคัญมากในยุคนี้ คุณไม่ใช่แค่หมอดูเหมือนสมัยก่อน  แต่ยุคนี้  คุณคือ ที่ปรึกษาชีวิต คุณคือผู้บำบัดจิตใจผู้คน คุณเป็นนักบำบัดจิตใจ คุณคือผู้ชี้นำแนวทางแสงสว่างให้แก่ผู้มีความทุกข์และช่วยแนะนำดวงชะตาแก้ไขปัญหาชีวิตให้ผู้คนไปทั่วโลก เป็นครูบาอาจารย์ที่ปรึกษาชีวิตให้แก่พวกเขาให้รู้สึกดีเป็นพลังบุญอันมหาศาล 

ผู้เขียนทำอาชีพทนายความให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์และการลงทุน รวมถึงบริหารจัดการหนี้มาเป็นเวลา 20 ปี และรักการเป็นนักพยากรณ์โหราศาสตร์ โดยเริ่มเป็นที่ปรึกษาชีวิตด้านโหราศาสตร์ให้แก่ผู้คนโดยสร้างรายได้เป็นอาชีพที่สองตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันและเป็นครูสอนนักพยากรณ์พลังจิตมาหลายรุ่น โดยเฉพาะรุ่นใหม่ได้มีเนื้อหาหลักสูตรสอนพลังจิตแนววิทยาศาสตร์สร้างนักพยากรณ์พลังจิตเพื่อให้เป็นแสงสว่างให้คำปรึกษาชี้แนวทางให้ผู้คนตื่นรู้เข้าใจพลังภายในตัวเองด้านพลังจิตจากอาชีพนี้จำนวนมากมาย

ความเป็นมาของตำราโบราณนาคราช




ความเป็นมาของตำรานี้  ผู้เขียนเองก็เป็นผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ จากครูบาอาจารย์หลากหลายท่านผู้ให้ความรู้ และได้นำมาประยุกต์ให้สอดคล้องกับยุคสมัยนี้  โดยนำเนื้อหาเฉพาะสาระสำคัญมุ่งเน้นให้ผู้อ่านเข้าใจและนำไปสร้างอาชีพ ให้คำปรึกษาแนะนำแก้ไขปัญหาชีวิตให้กับผู้คนจากต้นเหตุด้วยหลักธรรมและเคล็ดลับพลังดวงดาวจากตัวเลขชี้แนวทางชะตาชีวิต  รวมถึงผู้อ่านจะเข้าใจหลักธรรมตามคำสอน และกฎแห่งธรรมชาติของโลกใบนี้ กฎแห่งชีวิตมนุษย์ในแง่หลักธรรมที่กระจ่างชัดขึ้นผ่านพลังตัวเลขโดยผู้เขียนได้รวบรวมเนื้อหาจากหลากหลายทั้งในตำราดังเดิมและตำราสมัยใหม่ ประยุกต์เนื้อหาใหม่ให้สอดคล้องทันยุคทันสมัย โดยคงมีเนื้อหาสอนหลักธรรมเข้าไปด้วยกับการเรียนรู้ความหมายของตัวเลขและการทำนายดวงชะตา 

 

คู่มือนี้ ได้นำหลายตำรามารวมเข้าด้วยกัน  ทั้งความหมายตัวเลข ฐานตำแหน่งเพื่อการทำนาย รวมถึงเทคนิควิธีการอ่านแบบง่ายๆ เข้าใจและมีความหมายตรงตามตำราดังเดิม โดยเน้นอ่านเข้าใจง่ายและทำนายดวงชาตะอย่างมืออาชีพได้ สามารถนำความรู้นี้ไปสร้างรายได้ให้กับผู้อ่าน และรวมถึงผู้สนใจเรียนรู้ศึกษาศาสตร์นี้สามารถนำมาเป็นคู่มือเข็มทิศแผนที่ชีวิตให้กับตัวเองเพื่อใช้ชีวิตไม่ประมาท มีแผนที่กำหนดชะตาชีวิตเพื่อเตือนสติและรู้เคล็ดลับวิธีการกำหนดให้ดวงชะตาภพชาตินี้ของคุณใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า มีความสุข และประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านที่เราปรารถนา  

 

เนื้อหาจะมีความแตกต่างจากการศึกษาโหราศาสตร์จากตำราอื่นๆ เนื่องจาก คู่มือนี้ รวบรวมหลายแหล่งข้อมูล ดังนั้น เนื้อหาบางส่วนจะยึดหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาว่าด้วยเรื่อง กฎแห่งกรรม โดยดำเนินตามหลักธรรมอันสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงเป็นพุทธเทศนาแก่พระอรหันต์สาวก โดยยกเอาเรื่อง เหตุและผลของกรรมเข้ามาประกอบด้วย


ประวัติย่อ ความเป็นมาตามคำเล่าลื่อต่อๆ มาจากครูบาอาจารย์เกี่ยวกับคัมภีร์โบราณตำราดังเดิมได้ถูกส่งต่อมาหลายยุคหลายสมัยว่า 


“....คัมภีร์นี้พบในเมือง “สุวรรณคำโคม” เป็นชื่อดินแดนในอดีต มีมาตั้งแต่สมัยพระกกุสันธพุทธเจ้า ในสมัยนั้นเรียกว่า “ถ้ำกุมภ์” เป็นสถานอันพระกกุสันธสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาฉันบิณฑบาต และทรงมีพุทธทำนายไว้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เหลืออีก ๔ พระองค์ ในอนาคตจะมาฉันบิณฑบาตที่ถ้ำนี้เหมือนเช่นกับพระองค์ 

เพราะเป็นสถานที่ที่จะทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้อย่างมั่น คงในอนาคต ภายหลังสถานที่แห่งนี้ได้มีชื่อว่า เมืองสุวรรณโคมคำ แปลว่า โคมทอง เมืองสุวรรณโคมคำมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล (ดูในตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ) มีอาณาบริเวณสุดลูกหูลูกตา เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนา มีพระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมใจ ครูบาอาจารย์ในสายสุวรรณโคมคำ  

เล่าสืบมาว่า ท่านผู้มีฤทธิ์ฌานและบรรลุธรรมขั้นสูงในพุทธศาสนาได้รจนาไว้ เพราะเห็นว่า  สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมก็จริง แต่จะรู้ได้เฉพาะผู้ที่มีบารมีธรรมและฤทธิ์ฌานแก่กล้าสำหรับปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปไม่อาจจะรู้ได้    ทำให้ดำเนินชีวิตด้วยความประมาท อย่างไม่รู้ทันโลก   ด้วยเหตุนี้ท่านเหล่านั้นจึงได้รจนาคัมภีร์สุวรรณโคมคำขึ้น  เพื่อใช้คำนวณบุญกรรมให้เห็นเป็นรูปธรรม   คัมภีร์สุวรรณโคมคำจึงถืออุบัติขึ้นแต่บัดนั้นเป็นต้นมา   และเพราะเหตุว่า คัมภีร์นี้เกิดขึ้นในแผ่นดินสุวรรณโคมคำ  

บูรพาจารย์สุวรรณโคมคำจึงได้เรียกขานคัมภีร์นี้ว่า “คัมภีร์สุวรรณโคมคำ หรือเรียกอีกชื่อว่า "คัมภีร์มหาจักรพรรดิราช" คัมภีร์นี้แสดงสูตรคำนวณบุญบาปที่ให้ผลตามกาลเวลาไว้และยังรวมเอาศาสตร์อื่น ที่มีหลักการเดียวกันผนวกไว้อย่างครอบคลุม  รวมทั้งหมด  ๑๖  ส่วน  ได้แก่

๑. ลัคนา  ว่าด้วย สภาพชีวิต  ความเป็นอยู่  รูปร่าง  บุคลิก   

๒. โหรา  ว่าด้วย ความเจริญ ความเสื่อม ฐานะ  

๓. ตรียางฺค  ว่าด้วยความสุข  ทุกข์ทั้งหลาย  

๔. จตุรทฺสํส  ว่าด้วย  ความรุ่งโรจน์สูงสุด 

๕. ตมสํส   ว่าด้วย  อนาคตอันใกล้ (แบ่งออกเป็น   ปกรณ์)  

๖. นวางฺค ว่าด้วย  อุบัติกาลคู่  

๗. ทสมสํส  ว่าด้วย ตำแหน่ง  อำนาจ  อิทธิพล  บารมี (แบ่งออกเป็น  ๑๐  ปกรณ์)  

๘. ทวาทสํส  ว่าด้วย  ผู้อุปถัมภ์  บุพพการี  วงศ์สกุล (แบ่งออกเป็น  ๒๐ ปกรณ์) 

๙. โสทสํส ว่าด้วย  ทรัพย์อันเป็นมรดก  ดินแดน  การยึดครอง 

๑๐ วิมสํส ว่าด้วย กรรมเก่า ( แบ่งออกเป็น  ๒๐  ปกรณ์) 

๑๑. จตุรวมสํส  ว่าด้วยความสำเร็จในการศึกษาวิทยาการ  (แบ่งออกเป็น  ๒๐  ปกรณ์)  

๑๒. ภงฺส  ว่าด้วยธาตุ  ปราณ  และสมุนไพร  (แบ่งออกเป็น ๒๗  ปกรณ์)  

๑๓. ตริมสํส ว่าด้วยข้าศึก  ศัตรู  อุบาทว์  และอุปสรรค (แบ่งออกเป็น  ๓๐  ปกรณ์)  

๑๔. อคฺคเวทสํส   ว่าด้วยพฤติแห่งอาชีวะ  (แบ่งออกเป็น  ๑๕ ปกรณ์) 

๑๕. ขวทสํส  ว่าด้วยการห้ามฤกษ์  และวางฤกษ์ตามกลุ่มนักกษัตร  ๑๖. ฉฎฺฐองฺส  ว่าด้วยอรรถย่อยทั้งหลาย ทั้ง ๑๖ ส่วนนี้ รวมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  “โสฬส”  เป็นการแบ่งวิชาเท่ากับจำนวนส่วนทั้ง  

๑๖  ของดวงจันทร์ตามคัมภีร์สุวรรณโคมคำนั้นเอง  

ผู้เรียนเจนจบครบสูตรทั้งหมดนี้เรียกว่า “สำเร็จโสฬส”   กลายเป็นยอดคนครบถ้วนกระบวนยุทธ์   คัมภีร์สุวรรณโคมคำได้สืบต่อเรื่อยมารุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยเหล่าศิษย์ผู้ได้รับการถ่ายทอด 

ด้วยศักดานุภาพของคัมภีร์ที่มากล้นนี้ ล้วนเป็นที่หมายปองของผู้แสวงหาวิชายิ่งนัก เหมือนดังคล้าย คัมภีร์กลยุทธ์ซุ่นจื่อ ที่ได้รับการสืบทอดโดยซุนปิง ถึงกับยกทัพจับศึกแย่งชิงตามที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ คัมภีร์สุวรรณโคมคำได้ผ่านกาลสมัยมาช้านาน  

ต่อมาคัมภีร์นี้ได้ตกทอดมาถึง  "สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีศรีรัตนลังกาทีปมหาสวามีเป็นเจ้า" นามเดิม คือ พระศรีศรัทธา   เป็นโอรสของพระยาคำแห่งและเป็นหลานของพ่อขุนผาเมือง  ประสูติ    เมืองสองแคว  (พิษณุโลก)   เมื่อเจริญชันษาได้ศึกษาศิลปวิทยา และเจนจบคัมภีร์มหาจักรพรรดิราช หรือคัมภีร์สุวรรณโคมคำ สำเร็จโสฬสแต่ครั้งเยาว์วัย นอกจากนี้ยังทรงเชี่ยวชาญในวิชาคชศาสตร์  และอัศวศาสตร์  (อันหนึ่งรู้คุณช้าง  อันหนึ่งรู้คุณม้า  อันหนึ่งรู้คุณสีหะ  จารึกวัดศรีชุมตามที่กล่าวไว้) ในช่วงวัยหนุ่ม  พระศรีศรัทธาได้สู้รบกับขุนต่าง ๆ มากมาย  จนสุดท้าย ได้ทำยุทธหัตถีกับขุนจัง แทนพ่อขุนรามคำแหง ได้รับชัยชนะอย่างสง่างาม  

ต่อมาพระศรีศรัทธาเห็นภัยในการครองเรือน  ได้ทิ้งอาวุธ  นำทรัพย์สมบัติออกบริจาคทาน และได้ยกพระธิดา และพระชายาให้แก่ผู้ที่มาขอ ได้เจริญรอยตามพระเวสสันดรโพธิสัตว์ เสด็จผนวชบวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนาครั้งหนึ่ง  สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาได้จาริกไปแสวงบุญที่เกาะลังกา  หลังจากที่กลับจากการแสวงบุญที่เกาะลังกา ด้วยสมเด็จพระธรรมราชาลิไทย ตรัสให้บัณฑิตไปอาราธนานิมนต์กลับสู่กรุงสุโขทัยแล้ว     

ครูบาอาจารย์สายสุวรรณโคมคำ  เล่าสืบมาว่า  "สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ  ได้ผนวกเนื้อหาของพระอภิธรรมเข้าไว้ในคัมภีร์สุวรรณโคมคำ (ซึ่งท่านชำนาญอยู่แล้ว) จนครบสมบูรณ์  ซึ่งแต่เดิมนั้น คัมภีร์สุวรรณโคมคำมีเนื้อหาธรรมะครบถ้วนอยู่แล้ว  แต่ด้วยผ่านกาลเวลามาช้านาน ทำให้หลักธรรมกร่อนไปเป็นอันมาก  เหลือเพียงหลักการคำนวณ  และคำพยากรณ์เท่านั้น   ดังนั้น  ผู้ที่ศึกษาวิชาในคัมภีร์สุวรรณโคมคำ  เพื่อให้สำเร็จในขั้นสูง จำเป็นต้องศึกษาธรรมะ และฝึกกสิณสมาธิควบคู่ไปด้วย"     เมื่อบั้นปลายชีวิตของสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด คือวัดจุฬามณี จนกระทั่ง  ละสังขารลาจากโลกนี้ไป  รวมอายุได้ประมาณ  ๘๓  ปี

เชื่อกันว่า  แม้พญาลิไทก็ได้รับการถ่ายทอดคัมภีร์นี้จากสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ด้วยเช่นกัน   ต่อมาในสมัยหลัง  คัมภีร์นี้ตกทอดมาจนถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  คงประกอบด้วยเหตุนี้  พระองค์ท่านจึงปรีชาสามารถกอบกู้เอกราชได้สำเร็จภายในเวลาอันสั้น  และก่อนสวรรคต   โปรดให้คนนำคัมภีร์สุวรรณโคมคำไปคืนไว้ที่เมืองสุวรรณโคมคำเดิม (ประเทศลาวดงพญานาคราช)

หมายเหตุ: ประวัติของสมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธา  ดูในศิลาจารึกวัดศรีชุมหลักที่ ประกอบ . (อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากครูบาอาจารย์สุวรรณโคมคำ) ..... “

ตามประวัติ   “ พระมหาเถรศรีศรัทธา เป็นเชื้อสายของ พ่อขุนศรีนาวนำถุม ผู้สถาปนาแคว้นสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย สันนิษฐานว่าเป็นผู้สร้าง จารึกวัดศรีชุม หรือ ศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 2

ผู้เขียนได้รวบรวมเนื้อหาตามคำสอนวิชานี้รวมประยุกต์เข้ากับตำราสมัยใหม่ โดยเห็นว่าตำรานี้เป็นคัมภีร์โบราณ ที่หายไปหลายร้อยปีเพิ่งจะได้ปรากฏชัดขึ้นอีกครั้ง ควรแค่แก่คนทั่วไปจะได้รับรู้และมีวิชานี้เพื่อเป็นแสงสว่างชี้แนวทางแก่ผู้คนไปทั่วโลก เป็นที่ปรึกษาชีวิตให้แก่ผู้คนผ่านตำรานี้  ผู้อ่านเมื่อได้ศึกษาเรียนวิชานี้แล้ว  คุณจะเป็นมากกว่าหมอดูทั่วไป แต่คุณจะเป็นผู้ให้คำปรึกษา ผู้บำบัดจิตใจผู้คนด้วยวิธีการนำหลักธรรมคำสอนและหลักโหราศาสตร์นี้ไปใช้ช่วยเหลือผู้คนผ่านตำราคู่มือนี้ เพื่อให้มนุษย์ได้รู้กฎแห่งกรรมของตนและสร้างคุณงามความดี โดยเนื้อหาได้สอนเรื่องดังนี้  

 

เพื่อคำนวณธาตุ  ชาติกำเนิด-เพื่อรู้กรรมทั้งชีวิต , กำลังวัน-เพื่อรู้กรรมในหนึ่งวัน , ยามใหญ่-เพื่อรู้กรรมในหนึ่งยาม (หนึ่งชั่วโมงครึ่ง) , ยามอุบัติการณ์-เพื่อรู้เหตุการณ์ตอนนั้น , ฉัตรสามชั้น-เพื่อพยากรณ์เรื่องราวต่างๆ

คัมภีร์สุวรรณโคมคำ ได้บ่งบอกถึงบุญกรรมของผู้คนในอดีตชาติและภพชาตินี้ ผ่านจุติ ปฏิสนธิ ได้อยากแม้ย่ำไม่เหมือนตำราอื่น และเป็นวิชาตามประวัติคำเล่าลือมาแต่โบราณว่า “พระโกณฑัญญะ ใช้ทำนายคุณลักษณะ ของพระพุทธเจ้า สิ่งนี้เป็นวิชาที่ควรที่จะสืบทอดต่อไป  นอกจากนี้ สิ่งหนึ่ง คือ บอกกรรม บอกบุญที่เจ้าชาตาถนัดได้   อาทิ บุพกรรม พรสวรรค์ และการเข้าถึงธรรม 

ในส่วนของคัมภีร์สุวรรณโคมคำ ซึ่งบอกถึงตัวตนอัตตะ อัตตมา ของคนว่าเป็นคนเช่นไร มีวิบากกรรมใดติดตัวมา และควรเดินเส้นทางสายไหนถึงจะถึงมรรคผลเร็วซึ่งสามารถคำนวณได้จากคัมภีร์สุวรรณโคมคำ ทุกชีวิตเกิดมามีกรรมเป็นพันธุ มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย (กรรม คือ การกระทำ) จึงก่อเกิดอวิชา คือว่าโง่ ความไม่รู้ ความไม่เข้าใจในเหตุแห่งกองทุกข์นั้นๆ ฉะนั้น การได้มาศึกษาในศาสตร์ของคัมภีร์สุวรรณโคมคำ 

ส่วนหนึ่งก็เพื่อตัด อวิชา คือ ความไม่รู้ และสร้าง วิชา คือ ความรู้ ให้เกิด แม้กระทั้งชาตาชีวิตก็เช่นเดียวกันย่อมจะมีทุกข์-สุข เพราะเกิดจากบุญและบาป การกระทำในปัจจุบันกรรม ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเหตุและผลของมัน ​... “


ผู้เขียนได้อ้างอิงข้อมูลตามวิชาสุวรรณโคมคำ​  องค์ประกอบของปฏิจจสมุปบาท องค์ประกอบของชีวิตซึ่งมีความสัมพันธ์กันตามหลักของปฏิจจสมุปบาทนี้ ท่านเรียกว่าองค์ประกอบของปฏิจจสมุปบาท  ซึ่งมี อวิชชา สังขาร วิญญาณ ฯลฯ แต่ละองค์มีความสัมพันธ์กันเหมือนลูกโซ่  ชีวิตของสัตว์ก็ย่อมเวียนอยู่ใน วัฏจักร มีความเกี่ยวเนื่องกันเหมือลูกโซ่ ดังนี้ 

กล่าวคือ อวิชชา เป็นปัจจัยให้มีสังขาร ,  สังขาร เป็นปัจจัยให้มีวิญญาณ, วิญญาณ เป็นปัจจัยให้มีนามรูป, นามรูป เป็นปัจจัยให้มี สฬายตนะ , สฬายตนะ เป็นปัจจัยให้มีผัสสะ, ผัสสะ เป็นปัจจัยให้มีเวทนา , เวทนา เป็นปัจจัยให้มีตัณหา ,  ตัณหา เป็นปัจจัยให้มีอุปาทาน , อุปาทาน เป็นปัจจัยให้มีภพ , ภพ เป็นปัจจัยให้มีชาติ  ,  ชาติ เป็นปัจจัยให้มีชรามรณะ , ชรามรณะ เป็นปัจจัยให้มี โสกะ , ปริเทวะ

 

องค์ประกอบของปฏิจจสมุป บาท  ๑๒ องค์นี้ เป็นส่วนประกอบของชีวิตผู้ที่ยังตัดอวิชชาไม่ได้แม้ตายไปแล้วอวิชชาก็เป็นปัจจัยให้มีสังขารสังขารก็เป็นปัจจัยให้มีวิญญาณ ฯลฯ  ต่อไปอีกไม่รู้จักจบสิ้นการเรียนรู้เรื่องปฏิจจสมุปบาทนี้ จึงเป็นการเรียนรู้กฎธรรมชาติของชีวิตจะได้ไม่ต้องหลงใหลในเหตุปัจจัยภายนอก เพราะชีวิตนั้นหมุนเวียนไปตามวัฏฏะ คือ กิเลส กรรม วิบาก ซึ่งเป็นเหตุปัจจัยต่อเนื่องกันอยู่ตลอดเวลาเมื่อเราได้รับผลอย่างไรของชีวิต เช่น มีสุข ทุกข์ 


ดีชั่วอย่างไรก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่าเป็นเพราะเหตุคือ กรรม ที่ต้องทำกรรมก็เพราะกิเลสเป็นเหตุให้ทำ ตราบใดที่ยังตัดกิเลสไม่ได้ชีวิตก็ต้องเป็นอยู่อย่างนี้หมุนอยู่อย่างนี้ร่ำไป เมื่อเข้าใจถูกต้องอย่างนี้ความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญาก็จะเกิดขึ้น จะเกิดความเชื่ออย่างมีเหตุผลเช่นเชื่อว่าชีวิตทุกชีวิตย่อมเป็นไปตามกรรม และกรรมนั่นเองเป็นผู้ลิขิตชีวิตให้เป็นไปต่าง ๆ กัน ดีบ้าง เลวบ้าง เพราะชีวิตกรรมลิขิต

1.      อวิชชาเหตุให้เกิดมนุษย์เหตุให้เกิดทุกข์เหตุให้เกิดพุทธะ

จุติ บอกจริต (หาได้จากวันเดือนปีเกิดของเจ้าชาตา)


มนุษย์เรามีจริต ติดตัวมาด้วย หรือมีวิสัยของความโลภ โกธร หลงมาด้วยกันทุกคน จริตในพุทธศาสนา แบ่งเป็น จริต ๖ ประการ แต่ในคัมภีร์ เพิ่ม ปัญญาจริต มารยาจริต เข้าเป็น ๘ จริต ทั้งนี้ จริตที่เพิ่มขึ้น อีกสองประการ คือปัญญาจริต กับมารยาจริต ก็สามารถจัดเข้าใน  หมวดหมู่ จริตได้ เช่นกัน


การหาจริต หรือ จุติ  ได้จากการคำนวณ จากวันเดือนปีเกิด และเวลาเกิด เทียบจุติตนกับสถานที่ที่จะปฏิบัติ


กรรมฐาน ให้ได้ผลดีกับตัวเอง เริ่มต้นจาก


จุติ ๑ ดาวอาทิตย์ สถานที่เหมาะสมกัน เป็นที่สว่าง เด่น โอ่โถง หรือร้อน

จุติ ๒ ดาวจันทร์ สถานที่เป็นน้ำไหลเรื่อย ล่มเงา สบาย ๆ
จุติ ๓ ดาวอังคาร เป็นน้ำตกก็ได้ แต่ต้องเป็นที่น้ำแรงเซาะหิน ที่โขดหิน ไม้มีหนาม
จุติ ๔ ดาวพุธ เป็นที่ชายเลนหรือหันหลังให้น้ำ ที่ต้นไม้ผลิใหม่
จุติ ๕ ดาวพฤหัส เป็นที่อุ่น ๆ อาศรมศาลา
จุติ ๖ ดาวศุกร์ ที่สวยงาม มีดอกไม้
จุติ ๗ ดาวเสาร์ จอมปลวก ถ้ำ


สาระสำคัญเพิ่มเติม จุติ กับ สัปปายะ ที่เหมาะสมของตน เพื่อเป็นประโยชน์กับท่าน ดังนี้ค่ะ


จุติ ๑  ดาวอาทิตย์ นั่งกรรมฐานในสถานที่ เด่น โอ่โถง ที่จัดไว้อย่างมีระเบียบ หน้าบ้าน


จุติ ๒  ดาวจันทร์ สถานที่เป็นน้ำไหลเรื่อย บ่อน้ำ คลอง ล่มเงา สบาย ๆ หากหาไม่ได้ นำน้ำมาวางไว้ใกล้ ๆ สักหนึ่งขัน ก็ได้


จุติ ๓  ดาวอังคาร เป็นน้ำตกที่แรงเซาะหิน ชายทะเลที่มีคลื่น บริเวณไม้มีหนาม หรือที่มีเสียงหน่อย อาจเปิดวิทยุเบา ๆ ซึ่งการฝึกแบบนี้ จะดีต่อกรรมฐานต่อไป ในรถ


จุติ ๔  ดาวพุธ เป็นที่ชายเลนหรือหันหลังให้น้ำ ที่ต้นไม้ผลิใหม่ ห้องเรียน นั่งในกองหนังสือ
ในห้องอาหาร ในครัว ห้องนั่งเล่น ห้องสมุด


จุติ ๕  ดาวพฤหัส อาศรมศาลา วัด ห้องพระ


จุติ ๖  ดาวศุกร์ สถานที่จัดไว้สวยงาม สวนดอกไม้ ห้องนอน


จุติ ๗  ดาวเสาร์ จอมปลวก ในถ้ำ บนก้อนหิน โครงสร้างใหญ่ หลังบ้าน


เช่นเดียวกัน พิจารณาจากปฏิสนธิแทนจะจุติได้ หากปฏิสนธิดีกว่า จุติ

 

นอกจากนี้ ผู้เขียนได้นำตำราการคำนวณตัวเลขจากตำราด้านอื่นๆ มาประกอบรวมเข้ากันไว้ในคู่มือนี้เพื่อให้ทุกท่านได้ศึกษาถึงพลังอำนาจแห่งตัวเลขในหลากหลายแขนง อาทิ ตำราไทย ตำราของจีน ซึ่งมีประวัติมายาวนานเช่นเดียวกัน เข้ามารวมอยู่ด้วยเพื่อการช่วยทำนายขยายความหมายให้ชัดเจนและเข้าใจง่ายในการทำนาย     

 

โดยได้นำเนื้อหาเรื่องจักรราศีบางส่วนมาประยุคกับภพ  21 ช่วยทำนายดวงชะตาชีวิตจากราศีเกิดและวิธีคำนวณเพื่อนำมาใช้ประกอบอาชีพและให้คำปรึกษาชีวิตผู้คนให้มีความแม้นย่ำมากยิ่งขึ้น และหลากหลายวิชาย่อเฉพาะแก่นที่เป็นเนื้อหาสาระสำคัญแก่การทำนายชะตาชีวิต คู่มือนี้ผู้เขียนจัดทำขึ้นเพื่อมุ่งเน้นสร้างผู้ให้แสงสว่าง ผู้ให้คำปรึกษาช่วยเหลือแก้ไขชีวิตผู้คนจากหลักธรรมคำสอนผ่านตัวเลข และเน้นสร้างให้เป็นครูบาอาจารย์นำวิชานี้ไปถ่ายทอดสอนต่อๆ ไป เพื่อทำหน้าที่สืบสานตำราวิชานี้ให้กับผู้คนสื่อๆ ต่อไป


 สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติม จาก E-book ตัวอย่างได้ที่นี่   << คลิก >>




สนใจ E-book ราคาพิเศษ 2,990 บาท จากราคาปกติ 5,999 บาท

ติดต่อที่นี่ << คลิก>>

คลิปวีดีโอทั้งหมด  จาก youtube   โดย <<คลิปวีดีโอ>> ผู้เขียนจัดเอง

ออกแบบตกแต่งปกและภาพประกอบ  จาก : canva : จาก pixabay


โดย อมรรัตน์ บุญฤทธิ์ : Ami Lawyer ผู้เขียนบทความ & Ebook










ชั้นหนังสือตัวอย่างอ่านฟรี  <<คลิก>>




   

 

 

 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คัมภีร์เปลี่ยนชีวิต สะกดจิต ผลิตเงินล้าน รวมสูตรลับความสำเร็จ กฎแรงดึงดูด [Law of Attraction] พิสูจน์สิ่งมหัศจรรย์ด้วยตัวคุณเอง #ภาพยนตร์สารคดีวิทยาศาสตร์ " I Am : Tom Shadyac "

ความลับจินตนาการ ดึงดูดสร้างความสำเร็จ !! โดย Neville Goddard [เนวิลล์ ก็อดดาร์ด] บุคคลสำคัญแห่งโลก