จินตนาการสร้างความสำเร็จ ดึงดูดเงิน เชื่อมต่อจิตใต้สำนึกกับควอนตัม สำเร็จรวดเร็ว โดยกระบวนการวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังสร้างคนสำเร็วไปทั่วโลก

 


 จินตนาการสำคัญกว่าความรู้?

เรื่องทั้งหมดนี้ที่จะกล่าวถึงให้เพื่อนๆ เข้าใจ จินตนาการ คือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เราทุกคนเราใช้มันในทุกๆ วัน ก่อนที่เราจะตัดสินใจลงมือกระทำอะไรบ้างอย่าง 

มันเริ่มจากจิตของเรา คือ ความคิด และจิตของเรา มันก็สร้างเป็นภาพจินตนการในสมอง เป็นการนึกเห็นสิ่งต่างๆ ก่อนเสมอ นี่คือ สิ่งที่พวกเรามนุษย์ทำมันโดยธรรมชาติ แต่เรามักสร้างภาพจินตนาการในเรื่องที่เราไม่ได้ปรารถนาหรือไม่ได้จงใจใช้มันเพื่อความสำเร็จเท่าไร  เช่น คุณกำลังจินตนาการภาพอดีตที่คุณเจอมาบ่อยๆ  และคุณมันทำมันซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องเดิมๆ สิ่งที่คุณเจอปัจจุบันมันมาจากภาพฉายในสมองจินตนาการของเราที่ทำบ่อย

สำหรับบทความนี้  ผู้เขียนจะนำพาเพื่อนๆ ไปรู้จักการจินตนาการแบบสร้างความสำเร็จ จงใจสร้างมันขึ้นมา  คุณสามารถตั้งใจใช้จินตนาการเปลี่ยนชีวิตของคุณได้

เรามารู้นึกบุคคลสำคัญของโลกเขาคนนั้น คือ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์"  "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" เป็นวลีอันอมตะที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ทิ้งเอาไว้ให้แก่โลก  ความรู้ทำให้เราฉลาดขึ้น แต่มันจะเป็นสิ่งที่อยู่คงเดิมอย่างนั้น หากเราไม่นำความรู้นั้นไปใส่จินตนาการเพิ่มเติม  เปรียบเทียบง่ายๆ ความรู้ก็เหมือนกับปัจจุบัน ขณะที่จินตนาการเปรียบได้กับอนาคต 

แม้แต่ผู้ที่ได้รับการยกย่องจากนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกว่าเป็นผู้ทรงความรู้อย่าง ไอน์สไตน์ ยังไม่อยากให้เราจบแค่ความรู้และให้ความสำคัญกับจินตนาการมากกว่า เพราะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นบนโลกของเรามานักต่อนักแล้ว

มนุษย์เรารู้จักใช้จินตนาการมานานแล้ว และที่สำคัญคือ จินตนาการไม่ได้เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มอาชีพ แต่จินตนาการเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เราทุกผู้ทุกนาม

ทุกขณะที่เรากำลังขับรถหรือข้ามถนน เรากำลังกะระยะ และจินตนาการตำแหน่งของรถจากความเร็วที่เห็น

ทุกครั้งที่เราอ่านการ์หนังสือ เรากำลังสร้างการเคลื่อนไหวระหว่างช่องของภาพเรื่องราวในหนังสือในหัว

ทุกครั้งครั้งที่เราชมละครหรือดูข่าว ดูการแข่งกีฬา เสพสื่อข่าวสาร ทีวี ออนไลน์ โซเซียลมิเดีสิ่งใดๆ ก็แล้วแต่ คุณกำลังเริ่มต้นใช้จินตนาการในสมองตามภาพที่คุณไปเสพมา  และเมื่อคุณเพิ่มความรู้สึกเข้าไปตามเรื่องราวที่คุณเสพนั้น ทำมันบ่อยๆ นั้นเป็นการบ่งล่วงหน้าแล้วว่า คุณกำลังจินตนาอนาคตของคุณและสั่งจิตใต้สำนึกของคุณให้ดึงดูดทำสิ่งนั้นให้เป็นจริงแล้ว

ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตเรา มันเริ่มต้นจากการนึกคิดในสมองของเราก่อนเสมอ นั่นคือ การใช้จินตนาการเป็นไปโดยธรรมชาติของชีวิตมนุษย์  โดยหากจินตนาการมันเข้มขึ้น มีความรู้สึกด้วย ยิ่งแรงมากเท่านั้น มันจะพลักดันให้เกิดการกระทำตามมา 

สังเกตชีวิตของเราทั่วไป เราคิด+เห็นภาพ+เรามีอารมณ์ความรู้สึก+ลงมือกระทำ และได้รับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ฉะนั้น เหตุที่เราสร้างจะตั้งใจหรือไม่ ผลลัพธ์ที่เราเจอล้วนแล้วเกิดจากตัวเราขับเคลื่นปัจจุบันของเหตุและส่งเป็นผลตามมาเสมาอ นี่คือกรณี บุคคลทั่วไป มันเป็นแบบอัตโนมัติ ไม่ได้กำหนดต้องใช้สร้างมันให้เกิดขึ้นตามที่เราปรารถนา 

แต่หากเราต้องการสร้างมันให้เกิดขึ้น นั่นคือ เราจงใจสร้างภาพให้จินตนาการเกิดขึ้นเพื่อให้มันเกิดเป็นเรื่องจริงตามเป้าหมายที่เรากำหนด  

เรื่องน่าทึ่งเกี่ยวกับจินตนาการ คือในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จินตนาการที่ดูเหมือนจะแยกตัวออกจากโลกแห่งความจริง กลับเป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งในการค้นพบความจริงทางวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ครั้งอดีตกาลแล้ว

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผู้คนมีความเชื่อเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ว่า “วัตถุจะหยุดนิ่ง หากไม่มีแรงกระทำต่อมัน” นั่นคือ ถ้าไม่มีแรง วัตถุก็ไม่มีทางเคลื่อนที่ได้

ความเชื่อที่ดูประจักษ์ชัดเจนนี้ คือ หนึ่งในทฤษฎีการเคลื่อนที่ของ อริสโตเติล นักปรัชญาชาวกรีกผู้ยิ่งใหญ่ จริงๆ แล้วอริสโตเติลมีคำอธิบายเชิงปรัชญาที่ฟังดูแล้วอลังการและไปไกลกว่านี้มาก แต่ในที่นี้จะตัดมาเล่าเพียงบางส่วนเท่านั้น แน่นอนว่าทฤษฎีนี้ฟังดูถูกต้องอย่างไร้ที่ติ แต่ดูเหมือนจะมีปัญหาหนึ่งที่ท้าทายทฤษฎีของอริสโตเติล นั่นคือ ปัญหาเรื่องลูกธนู

อริสโตเติล ตอบคำถามด้วยทฤษฎีของเขาว่า การที่ลูกธนูพุ่งออกไปได้ไกลนั้น เป็นเพราะขณะที่ธนูกำลังเคลื่อนแหวกอากาศ อากาศที่อยู่ด้านหน้าลูกธนูได้ไหลมาออกแรงผลักดันก้นธนูให้เคลื่อนที่ต่อไปข้างหน้า ดังรูปที่ 2

คำอธิบายของอริสโตเติลนับเป็นจินตนาการที่ดูแถไปข้างหน้าโดยแท้ เป็นการจินตนากรตามสิ่งที่ตนต้องการจะเชื่อ ไม่มีเหตุผลเลยที่อากาศต้องวาดลีลาเป็นวงโค้งสวยงามเช่นนี้ แต่กระนั้นด้วยความยิ่งใหญ่ของอริสโตเติล การจินตนาการหมู่ก็บังเกิดขึ้น ผู้คนในยุคนั้นพากันเชื่อตามทฤษฎีของอริสโตเติลอย่าหัวปักหัวปำ

เป้าหมายและแผนคุณจะสำเร็จได้ ต้องมีจินตนาการที่ชัดเจนล่วงหน้า ถึงความสำเร็จแล้ว


ทุกวันนี้ทฤษฎีการเคลื่อนที่ของอริสโตเติลถูกแทนที่ด้วยกฎข้อที่หนึ่งของนิวตัน ที่แถลงว่า “หากไม่มีแรงมากระทำต่อวัตถุ วัตถุนั้นจะคงสภาพการเลื่อนที่เดิมของมันไว้ คือ

1. ถ้าแต่เดิมมันหยุดนิ่ง มันก็จะหยุดนิ่งต่อไป หรือ

2. ถ้าแต่เดิมเคลื่อนที่ มันก็จะเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงด้วยความเร็วเท่าเดิมต่อไปเรื่อยๆ”

คำกล่าวที่ฟังดูง่ายๆ นี้เอง คือกฎการเคลื่อนที่ข้อที่ 1 ของนิวตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎการเคลื่อนที่ 3 ข้อที่นิวตันค้นพบ

จินตนาการกับวิทยาศาสตร์  สะพานเชื่อมโลกควอนตัมสู่โลกแห่งอนาคต

เรื่องวิทยาศาสตร์ที่เราต้องรู้ในโลกยุคปัจจุบันกำลังมามีอะไรบ้าง

เพราะวิทยาศาสตร์หมุนรอบตัวเรา โลกที่เชื่อมโยงทุกสิ่งไว้ด้วยเทคโนโลยีและถูกขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ 

วิทยาศาสตร์ กลายเป็นศาสตร์ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการก้าวสู่โลก แห่งอนาคต วิทยาศาสตร์อยู่รอบตัว พวกเขาอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง กับมนุษย์ทุกคน ทำให้เรารู้จักใช้เหตุผล เกิดความคิดอย่างเป็นระบบ จนพัฒนาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ หากเรามองย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วเราอาจไม่เชื่อว่าวิทยาศาสตร์ทำให้โลกที่เคยอยู่ในจินตนาการของเรา กลายเป็นโลกของทุกวันนี้ได้ และนี่คือพลังของวิทยาศาสตร์ที่อักษรใช้เป็นแนวทางในการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ของเรา


จินตนาการมี 2 รูปแบบ ตามแนวคิดของนโปเลียน (จากหนังสือที่โด่งดัง คิดแล้วรวย)

1 จินตนการสังเคราะห์ (ข้อมูลเก่า ความรู้ที่มี)

คือ เกิดจากความรู้ และข้อมูลเก่า นำมาสังเคราะห์ให้เกิดขึ้นจริง ทำซ้ำ มนุษย์มักใช้จินตนการนี้บ่อย

2 จินตการสร้างสรรค์ (จงใจสรรค์ใหม่) คือ การออกแบบใหม่ คิดสรรค์เป็นภาพในสมองใหม่ 

ลักษณะสร้างจินตนาการ ตามกระบวนวิทยาศาสตร์  มีด้วยกัน 3 วิธีการ

1 เขียนเป็นเป้าหมายและแผน คือ ขณะที่คุณเขียนและวางแผน คุณจะต้องจินตนาการไปด้วย โดยขณะที่คุณเขียนเป้าหมายและแผน ให้รวมจิตใจอยู่กับภาพจินตนการเรื่องเดียวเท่านั้น มันคือสมาธิ

2 วาดเป็นภาพ สี แพน  คือ การวาดกาตูน วาดภาพฝัน เช่น เด็กๆ วาดภาพบ้าน พ่อแม่ครอบครัว มาจากจินตนาการ ฉะนั้น คุณเอง ก็สามารถ วาดภาพความฝันของคุณออกมา บ้านที่ต้องการ รถยนต์ คู่ครอง ชีวิตในแบบที่คุณต้องการ  (การวาด คือ สมาธิ เป็นการฝึกสมาธิที่ดี เพราะคุณกำลังรวมจิตใจอยู่ที่การวาดภาพ) 

3 พูด คือ การพูดพร้อมกับจินตนาการตามคำพูดนั้นๆ โดยคุณจะต้องมีความรู้สึกตามคำพูดและเห็นภาพจินตนาการนั่นด้วย ทำบ่อยๆ เช่น พูดความฝัน สิ่งที่คุณปรารถนา เช่น เป็นคนมีชื่อเสียงก็ พูดว่า "ฉันเป็น… ฉันมี.. ภาพที่ชัดเจนและรู้สึกขณะที่พูด)

มาดูวิธีการจินตนาการจากการเขียนเป้าหมายและแผนชีวิตที่คุณต้องการ

เป็นการสร้างจินตนาการ ด้วยวิธีการเขียนและวางแผนออกมาจากสมอง นึกภาพขณะเขียนและวางแผน มีรายละเอียดทุกขึ้นตอน 

การเขียนโดยจินตนการ ถือเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง  

วิธีเขียนและวางแผนด้วยจินตนาการ ดังนี้

1 ขณะที่เขียนเป้าหมายและแผน รวมจิตและใจให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เขียนขึ้น (สมาธิ อยู่กับปัจจุบันโฟกัสจิตความคิดและใจรูสึกอยู่กับข้อความที่เขียน สงบนิ่ง)

2. ใส่รายละเอียดให้ชัดเจน ขึั้นตอนและวิธีการ ยิ่งมีระเอียดมาก ภาพจินตนาการยิ่งชัด สมองเราจะเริ่มทำงานจากภาพที่ชัดเจนมากขึ้น 

3. ความรู้สึกจะเริ่มเมื่อภาพจินตนาการชัดเจน  เช่น ภาพจินตนาเห็นตัวเองกับคนรัก คุณจะรู้สึกมีความสุข ภาพคุณขับรถหรูราคาแพงคุณจะรู้สนุกสนานตื่นเต้น , ภาพคุณได้รับเงินนำไปใช้สิ่งที่คุณต้องการ นำเงินไปซื้อบ้าน นำเงินไปทำบุญ คุณจะรู้สึกดี รู้สึกมีความสุข ตื่่นเต้น ปิติเบิกบาน ซาบซึ่งตันใจ ความรู้สึกมันจะมาจากภาพที่ชัดเจน

ความรู้สึกที่ได้รับจากการจินตนาการและการเขียน คือ ตัววัดว่า เป้าหมายนั้นจะสำเร็จ

จินตนการไปตามเป้าหมายและแผนที่เขียน  เช่น ขณะที่เขียน เรากำลังเขียนเป้าหมายและแผนทำงานล้านแรก ปี 2566 เราก็จินตนการ การสร้างรายได้ของเรา ว่าเราจะเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาใจให้ผู้คนไปทั่วโลก สร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้กับชาวโลก เห็นตัวเองอยู่บนเวที 

การสร้างจินตนาการเรื่องเงิน งาน ให้คุณตั้งคำถามแก่ตัวเอง  

1 เป้าหมายนั้น คุณสร้างขึ้นมาเพื่อใคร เพื่ออะไร  เช่น ผู้นำจิตวิญญาณ เพื่อปลดล็อคและแก้ไขชีวิตผู้คนให้ตื่นรู้ด้านจิตวิญญาณ

2 หากคุณมีคำตอบได้  เริ่มใช่ เช่น ช่วยคนไทยรู้เรื่องจิตวิญญาณวิทยาศาสตร์ เรื่องความภาวะอารมณ์คลื่นความถี่ส่งผลต่อชีวิต  ให้ตื่นรู้ ชีวิตดีขึ้น

3 ถามต่อไป เลื่อนๆ เช่น ช่วยเขาปลอดล็อคแบบไหน  หากคุณตอบได้ นั้นแสดงว่า เป้าหมายและแผนคุณชัดเจน ถามไปเลื่อนๆ วิธีการ และแผนมันจะออกมากจากสมองของคุณ (เมื่อมีไอเดียจากการจินตนาการให้จดบันทึกไว้) มันจะเป็นจริง คุณก็เขียนไปเลื่อยๆ กำหนดให้ชัดเจน 

เป้าหมายที่ชัดเจนต้องมีลักษณะตัวอย่างดังนี้

เป้าหมายเกี่ยวกับคน  คือ สอนใคร อายุเท่าไร ที่ไหน อย่างไร เวลาไหน ช่องทางไหน ..

เป้าหมายเกี่่ยวกับวิธีการ คือ ทำอย่างไร เมื่อไร เวลาใด เริ่มอย่างไร ...

วิธีการและแผนการทั่งหมดนี้ ภาพต้องชัดเจนในการจินตนาการ 

เห็นตัวเองสำเร็จ คือ ภาพในสมองมันสำเร็จไปแล้วตามรายละเอียดที่คุณสร้าง  

เห็นตัวเองใช้ชีวิตอิสระภาพสอน คือ มีอิสระตอนนี้ ปัจจุบัน เงินไหลเข้ามาต่อเนื่อง  

อย่างลืม : ขณะที่จินตนาการ มือยังคงเขียนไปด้วย และรู้สึกตามภาพที่จินตนาการ 

4. ลงมือทำตามเป้าและแผนที่คุณวางไว้  เริ่มจากคุณอาจทดลองทำดูก่อนก็ได้ และหลังจากนั้น สำรวจความรู้สึกของคุณว่าใช่ไหม หากใช่สิ่งนั้นจะสำเร็จ คุณก็ทำมันต่อไป 

5. อ่านเป้าหมายและแผนของคุณทุกๆ วัน เพื่อให้บันทึกไว้ที่จิตใต้สำนึก ขณะที่อ่าน จะต้องจินตนาการและรู้สึกไปด้วย 

6 จบด้วยการขอบคุณ เป็นการเปิดรับพลังจักรวาล การขอบคุณ คือการแสดงว่าคุณได้รับแล้ว รู้สึกไปตามภาพจินตนาการและขอบคุณไปพร้อมด้วย  คุณได้รับสิ่งดีๆ ขอบคุณสรรพสิ่งขอบคุณความรัก ขอบคุณจักรวาล

ทั้งหมดที่ผู้เขียนนำมาแบ่งปัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะคะ  ลองไปทดสอบทำดู ทำทุกๆ วัน เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง  จะเห็นถึงพลังวิเศษในการจินตนการ คุณจะเห็นถึงความจริงและความสำเร็จเร็วมากขึ้น

สรุป จินตนาการเชื่อมต่อจิตใต้สำนึกกับวิทยาศาสตร์ควอมตัมสร้างความสำเร็จให้เรา 

3 ขั้นตอนจินตนาการดึงดูดเงิน I วิธีจินตนสร้างเป้าและแผนสู่ความสำเร็จรวดเร็ว

1. จงใจสร้างภาพที่ชัดเจน ตามที่คุณกำหนดเลือกเท่านั้น 

คือ ภาพ ในหัวของเราต้องมีรายละเอียด และรายละเอียดนั้นจะต้องทำให้เรารู้สึก มีความสุข สนุกสนานการการสร้าง  เช่น คุณกำลังนึกถึง ความรัก , การได้มาของเงิน , ดูละครแล้ว ภาพมันฉายในหัว

2. ความรู้สึก  (เฉพาะด้านดีๆ บวกๆ)

คือ ตัวชี้วัด ว่าสิ่งที่คุณจินตนาการจะสำเร็จหรือดึงดูดเงินได้หรือไม่  เพราะหากคุณจินตนาการแล้วรู้สึกเฉยไม่มีอะไรเลย คิดไม่ออก หรือเครียด ทุกข์ เศร้า หรือพลังลับต่างๆ  คำตอบบอกในอาการหรือความรู้สึกของคุณ คือไม่ได้รับหรืออาจเกิดขึ้นช้า ส่วนใหญ่ดึงดูดเรื่องที่ต้องการไม่ได้ แต่จะได้เรื่องอื่นแทน  

สิ่งนี้ หากพลังจินตนาการคุณเข้มขนเป็นจินตนาการด้านลบ ก็ดึงดูดได้เช่นกันแต่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ 

แต่ตรงกันข้าม หากคุณจินตนาการแล้ว เห็นภาพชัด สนุกสนานกับภาพนั้น ตื่นเต้นรู้สึกดี มีความสุข หรือบางคุณ คุณจินตนาการแล้วอิ่มเอิบต้นใจ รู้สึกขอบคุณกับภาพที่เห็น จินตนาการแล้วสงบตื่นรู้ตาสว่างหรือจิตในเปิด สร้างความรู้สึกปิติเบิกบานความรู้สึกดีๆ เหล่่านี้ ด้านบวกๆ เป็นพลังงานที่กำลังเชื่อมต่อพลังจิตใต้สำนึกสู่จักรวาลและดึงดูดสิ่งที่คุณปรารถนา ตัวคุณเอง จะรู้ว่าสิ่งที่คุณจินตนาการจะสำเร็จหรือไม่ คือ ความรู้สึกของคุณที่เกิดขึ้นมันแท้จริงจากใจคือหรือไม่ ในทุกๆ วัน  

3. ขอบคุณ คือ การตอบรับว่า คุณได้รับแล้ว เป็นการเชื่อมต่อพลังจักรวาล และเปิดรับความสำเร็จ  และขณะที่คุณขอบคุณให้ทำไปพร้อมกับการสร้างภาพจินตนาการและรู้สึก 

มันคือการเปิดรับพลังงานจักรวาล เป็นการส่งภาวะความรู้สึกด้านจิตวิญญาณจูนจิตไปยังพลังงานดีๆ ต่อเชื่อมพลังจักรวาล ส่งแรงสั่นสะเทือนระดับสูง  

สามารถฟังคลิปไฟล์สดย้อนหลัง  <<<คลิกที่นี่>>

เนื้อหานี้ มากจาก คัมภีร์เปลี่ยนชีวิต สะกดจิตผลิตเงินล้าน อ่านรายละเอียดตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างคะ


สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่  << คลิก >>

สนใจสั่งซื้อ E-book ผ่าน Google  ดูรายละเอียดเพิ่มเติม  <<คลิก>>


สั่งซื้อตรงจากผู้เขียน ราคาพิเศษ  1,599 บาท จากราคาปก 2,900 บาท  
ติดต่อ Line : @767oliro    <<คลิก>>


ออกแบบตกแต่งปกและภาพประกอบ  จาก : canva : จาก pixabay 




    



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คู่มือหมอดูตาทิพเงินล้าน พลังตัวเลขพญานาคราช 999 #ดูดวงชะตา

คัมภีร์เปลี่ยนชีวิต สะกดจิต ผลิตเงินล้าน รวมสูตรลับความสำเร็จ กฎแรงดึงดูด [Law of Attraction] พิสูจน์สิ่งมหัศจรรย์ด้วยตัวคุณเอง #ภาพยนตร์สารคดีวิทยาศาสตร์ " I Am : Tom Shadyac "

ความลับจินตนาการ ดึงดูดสร้างความสำเร็จ !! โดย Neville Goddard [เนวิลล์ ก็อดดาร์ด] บุคคลสำคัญแห่งโลก