สมาธิพลังงานสายเรกิกับสมาธิทั่วไป ทำงานอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร

สมาธิ มีการใช้กันในหลากหลายแบบแผน และในชีวิตประจำวัน สมาธิเป็นการฝึกจิตที่เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมของการควบคุมทางจิต ในจำนวน 84,000 แบบของการทำสมาธิ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ใช้วิธีการต่างๆเหล่านั้นในการควบคุมจิต

สมาธิสายพลังงาน เรกิกับสมาธิ

1.เพื่อรวบรวมพลังเข้ามาใส่ในร่างกายของนักบำบัด

2.ไม่มีการใช้สมาธิในการล้างพลังงานจากจักระของนักบำบัด

3.ครูสยามเรกิไม่นำสมาธิมาใช้ในการสอนสยามเรกิในระดับ 1, 2, 3 ของสยามเรกิ

4.นักเรียนของสยามเรกิไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิเป็นหลายๆชั่วโมงเพื่อที่จะเป็นสุดยอดนักบำบัด

เมื่อใดที่ต้องนำสมาธิมาใช้กับสมาธิเรกิ

1. เมื่อนักเรียนสำเร็จการฝึกพัฒนาของการใช้พลังจิต เพื่อให้เกิดการเปิดออกของสัมผัสที่หก

2. นักเรียนจะรู้วิธีการสื่อสารกับพลังงานอื่น โดยจะมีพลังที่เข้มแข็งกว่าคอยคุ้มครองอยู่

3. มีความคิดสร้างสรรค์และเชื่อมั่นในพลังจิตตัวเองที่จะในการใช้พลังสยามเรกิ


ข้อมูลจาก ปรมาจารย์หมอทวิภพ (ลี เหว่ย เต๋อ)

กลุ่มวิชาพื้นฐาน - เรกิ

จุดเริ่มต้นก็มาจากการทำสมาธิเนี่ยแหละค่ะ

เนื่องจากอาจารย์มิคาโอะ อูซุย พยายามค้นหาวิธีที่จะให้เกิดความสงบสุขทางจิตวิญญาณ
หรือว่าเป็นการพัฒนาจิตนั่นแหละ

ซาเซน (座禅) … วิถีการทำสมาธิแบบญี่ปุ่น

  

 ต่อเนื่องจากบทความ “ความสงบทางจิตวิญญาณ…ตามวิถีเรกิญี่ปุ่น” อันชิน ริทสุเม ที่เป็นจุดมุ่งหมายแห่งความสงบทางจิตตามที่อาจารย์อูซุยได้ตั้งใจเอาไว้ วันนี้แอนขอแบ่งปันเรื่องราวของอาจารย์อูซุย ผู้ค้นพบเรกิญี่ปุ่นกันต่อค่ะ

 

“ซาเซน” เป็นรูปแบบหลักของการทำสมาธิของชาวญี่ปุ่น เป็นการทำสมาธิแบบพุทธนิกายเซน

คำว่า ซา [座] แปลว่านั่งค่ะ

ส่วนคำว่า  เซน [禅] หมายถึงสภาวะของสมาธิที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนมาก ๆ ค่ะ

 

 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ซาเซนก็คือการทำสมาธิรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ

ใครเคยดูการ์ตูนญี่ปุ่น คงเคยเห็นว่าเวลาที่คนญี่ปุ่นฝึกทำสมาธิที่วัด แล้วจะมีพระภิกษุท่านยืนถือไม้กระบองยาว ๆ อยู่ข้างหลัง คอยดูลูกศิษย์ที่ฝึกวิชา หากเผลอหลับไป ก็ใช้ไม้นั้นตีลงไปที่บ่าให้ตื่นใช่ไหมคะ?  นั่นแหละค่ะ … คือการทำสมาธิแบบซาเซน

ข้อมูลดังเดิม ผู้จะทำสมาธิฝึกปฏิบัติ จะต้องไปที่วัด เพื่อฟังคำสอนคำแนะนำ ขอพรและนำมาปฏิบัติ

1.รับพรจากพระภิกษุและคำแนะนำวิธีปฏิบัติ ฟังธรรม

2.ฟังสอนวิธีการนั่งบนเบาะนั่งและหมอนรองนั่ง แล้วฟังสอนการปฏิบัติสมาธิแบบซาเซน

3.Gassho เป็นการไหว้โค้งคำนับ เพื่อแสดงความเคารพ และเตรียมร่างกาย ให้ร่างกายผ่อนคลายด้วยการเขย่าตัวเบาๆ

4.การปฏิบัติสมาธิแบบซาเซนมีหลักสามอย่าง

ขั้นตอนการทำสมาธิดังเดิม (ลักษณะเหมือนกันอานาปานสติ คือ รู้ลมหายใจเข้าออก)

แรกสุด คือ โชชิน (調身 ปรับกาย การจัดท่านั่ง)

จากนั้น คือ โชโซคุ (調息 ปรับลม การเพ่งสมาธิไปยังลมหายใจหลายๆครั้ง) คือ ใช้ลมหายใจ

สุดท้าย คือ โชชิน (調心 ปรับจิต การตั้งจิต) คือ จิตตามรู้ลมหายใจและรู้กายและฝ่ามือ

5.หากนั่งไปซักพักแล้วมีอาการง่วงหรือสมาธิฟุ้งซ่าน สามารถขอตัวช่วยโดยการส่งสัญญาณเรียก ‘จิคิโดะ’ จิคิโดะจะออกมาพร้อม ‘เคียวซากุ’ หรือแท่งไม้ 1 แท่ง และค่อยๆ เยื้องย่างมาข้างหลัง เอาไม้พาดไว้ที่บ่า ผู้ปฏิบัติจะต้องเอียงหัวไปอีกข้างเพื่อให้จิคิโดะตีได้สะดวกๆ หลังจากโดนเคียวซากุฟาดไปเต็มๆ แล้ว ผู้ปฏิบัติและจิคิโดะจะคำนับพร้อมๆ กัน เป็นอันจบพิธีปลุก

 

6.ทำสมาธิประมาณ 30-40 นาที หรือว่าธูปหมด 1 ดอกค่ะ

 

การทำสมาธิแบบซาเซน มีประโยชน์ดังนี้ค่ะ

✅ช่วยให้ระบบภายในร่างกายและการทำงานต่างๆดีขึ้น

✅ช่วยให้มีสมาธิ

✅ช่วยให้ลืมความทรงจำไม่ดีต่างๆได้

✅ช่วยให้มีความเมตตากรุณาเกิดขึ้นในจิตใจได้

✅ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้

✅ช่วยให้เกิดปัญญาได้

✅ช่วยให้สามารถเผชิญปัญหาและพบความสุขได้โดยง่าย

วลาที่คุณใช้เรกิ
คุณก็จะรู้สึกโล่ง เบา สว่าง สบาย รู้สึกเบา
จิตใจข้างในคุณก็รู้สึกสบาย รู้สึกสงบ
มันเป็นผลต่อเนื่องมาทำให้การทำสมาธิของคุณมันสงบได้เร็วขึ้น
และก็นั่งได้นานขึ้นค่ะ

 เรกิมาจากภาษาญี่ปุ่น 2 คำ คำว่า เร (靈) และ กิ (氣) 

Rei-เร ภาษาญี่ปุ่น คือ 靈 หมายถึง จิตวิญญาณ, ปัญญาทางจิตวิญญาณ, พลังเหนือธรรมชาติ, พลังจากเบื้องบน

“霝” เป็นคำญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มาจากภาษจีน ซึ่งก็คือคำเดียวกับคำว่า “หลิง” (จิตวิญญาณ) หมายถึง ฝนที่ตกลงมา เนื่องจากในสมัยโบราณผู้คนเชื่อว่าฝนจำเป็นต้องอธิษฐานต่อฟ้าและเทพเจ้า ซึ่งตอนอธิษฐานต้องมีจิตใจบริสุทธิ์ มีความจริงใจ ซึ่งเรียกว่า “ความจริงใจนำไปสู่จิตวิญญาณ” ดังนั้น “” จึงปรากฏขึ้น ด้านบนคือ “霝” ซึ่งแปลว่าฝน

ด้านล่างนี้คือ “示“ เป็นแท่นสำหรับบวงสรวง เพื่อแสดงความจริงใจต่อเบื้องบน

ในคลาส เรกิ โชเด็น (เรกิ 1) คุณจะได้เรียนรู้…

✅”เรกิ” ที่แท้จริงและกว่าจะมาเป็นเรกิในปัจจุบัน
✅การนำเรกิไปใช้ในชีวิตประจำวัน

✅ความแตกต่างของ เรกิญี่ปุ่น vs เรกิตะวันตก

✅รับการปรับจูนพลังงาน – เรจู (Attunement) ทั้งแบบตะวันตกและญี่ปุ่น

✅การปรับสมดุลร่างกายด้วยเรกิ
✅เทคนิคการทำสมาธิเรกิแบบญี่ปุ่น
✅ส่งพลังงานให้อาหาร/น้ำดื่ม
✅การสัมผัสพลังงาน เช่น จับออร่า
✅ทำความสะอาดชั้นออร่าให้สว่างขึ้น
✅การแสกน/ส่องออร่า ด้วยมือ ตา และจิต
✅การรับ-ส่งพลังงาน
✅ได้เรียนรู้พลังงานพื้นฐานทั้งหมด
✅เรียนรู้ระบบจักระ/ออร่า
✅อื่น ๆ ทุกเรื่องพลังงานที่คุณอยากรู้

พลังงานเรกิ คือ อะไร ? บำบัดด้วยเรกิ ใช้วิธีฝึกแบบไหน และข้อความระวัง

Reiki: มันคืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร?

เรกิเป็นเทคนิคการรักษาโดยใช้พลังงานของญี่ปุ่น คนที่ใช้มันบอกว่ามันใช้งานได้ แต่การวิจัยไม่ได้พิสูจน์สิ่งนี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรกิที่นี่

เรกิเป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัดเสริมที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดด้วยพลังงาน ผู้เสนอบอกว่ามันทำงานกับแหล่งพลังงานรอบ ๆ ร่างกายและเกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนพลังงานสากลจากฝ่ามือของผู้ปฏิบัติงานไปยังลูกค้า

การโต้เถียงบางอย่างเกิดขึ้นรอบๆ เรกิ เนื่องจากการวิจัยทางคลินิกยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หลายคนที่ได้รับเรกิอ้างว่าได้รับผลลัพธ์ที่เป็นบวก แหล่งที่เชื่อถือได้

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าการรักษาเรกิเกี่ยวข้องกับอะไร รายงานประโยชน์ต่อสุขภาพ และความคิดเห็นทางการแพทย์โดยรอบ

ต่อไปนี้คือวิธีที่การฝึกฟื้นฟูพลังงานนี้จะช่วยให้คุณมีสมดุล

บางทีคุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับเรอิกิแต่ไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร บางทีคุณกำลังพิจารณาเรกิ แต่ไม่แน่ใจว่าเหมาะสำหรับคุณหรือไม่ หรือบางทีแพทย์ของคุณอาจแนะนำเรกิเป็นรูปแบบการบำบัดเสริมสำหรับการรักษาพยาบาลที่คุณมีอยู่

ไม่ว่าคำถามของคุณจะเป็นเช่นไร Reiki Master Victoria Bodner, LMT พร้อมให้ความช่วยเหลือ เธอแนะนำคุณเกี่ยวกับพื้นฐานของเรกิ ซึ่งเป็นวิธีการรักษาโดยใช้พลังงานจากพลังงานที่ปลอดภัย อ่อนโยน และไม่รุกราน และมันทำอะไรกับร่างกายของคุณได้

พลังเรกิคืออะไร?

เรกิเป็นเทคนิคการรักษาพลังงานที่ส่งเสริมการผ่อนคลาย ลดความเครียดและความวิตกกังวลผ่านการสัมผัสที่อ่อนโยน ผู้ฝึกเรกิใช้มือของพวกเขาในการส่งพลังงานให้กับร่างกายของคุณ ปรับปรุงการไหลเวียนและความสมดุลของพลังงานของคุณเพื่อรองรับการรักษา

Mikao Usui พัฒนาเรกิในช่วงต้นทศวรรษ 1900 โดยมาจากคำภาษาญี่ปุ่น rei ซึ่งหมายถึง "สากล" และ ki ซึ่งหมายถึงพลังงานพลังชีวิตที่สำคัญซึ่งไหลผ่านสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ปัจจุบันเรกิถูกใช้ไปทั่วโลก รวมทั้งในโรงพยาบาลและสถานพักฟื้น เพื่อเสริมการรักษาสุขภาพในรูปแบบอื่นๆ

"เรกิช่วยในการรักษาด้วยการช่วยให้ผู้คนมีความสมดุลทางร่างกายอารมณ์จิตใจและจิตวิญญาณ" Bodner กล่าว

ประโยชน์ต่างๆ ของเรกิ

• ช่วยบรรเทาความเครียดและความวิตกกังวล
• ช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า
• ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยเรื้อรังต่าง ๆ
• ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและไมเกรน
• ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• ช่วยสร้างสมดุลให้สนามพลังงาน
• ทำให้ผ่อนคลายและหลับได้ลึกขึ้น
• ช่วยคลี่คลายอารมณ์ลบที่สะสมอยู่จนปิดกั้นการไหลเวียนของพลังชีวิต
• ทำให้สมองปลอดโปร่งและแจ่มใส รับมือกับปัญหาในชีวิตได้ดีขึ้น
• เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้สุขภาพกายและจิตโดยรวมดีขึ้น
• 
  

• เรกิส่งเสริมการผ่อนคลาย ลดความเครียด และบรรเทาอาการเพื่อปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดี สามารถ:

• 1.ทำให้มีสมาธิ

• 2.ส่งเสริมการรักษาเนื้อเยื่อและกระดูกหลังการบาดเจ็บหรือการผ่าตัด

• 3.กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

• 4.ส่งเสริมการรักษาตนเองตามธรรมชาติ

• 5.บรรเทาความเจ็บปวดและความตึงเครียด

• 6.สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ที่ได้รับการรักษาทางการแพทย์แบบดั้งเดิม เช่น เคมีบำบัด การฉายรังสี การผ่าตัด และการฟอกไต

• การศึกษาพบว่าการรักษาด้วยเรอิกิอาจสร้างความรู้สึกของ:
• สันติภาพ
• ผ่อนคลาย
• การรักษาความปลอดภัย
• สุขภาพที่ดี

• เรกิรักษาเงื่อนไขอะไรบ้าง?

  "เพราะมันใช้ได้กับทั้งตัวเอง ทั้งจิตใจ ร่างกาย และอารมณ์ และเนื่องจากเป็นพลังงานพลังชีวิตสากล เรกิจึงอาจประสบความสำเร็จในการรักษาร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และจิตวิญญาณทุกประเภท" Bodner กล่าว

  
  

  เรกิไม่ได้เจาะจงสำหรับโรคหรืออาการใดๆ แต่อาจเป็นตัวช่วยในการบำรุง รักษา ฟื้นฟูร่างกาย:

• มะเร็ง
• ปวดเรื้อรัง
• ภาวะมีบุตรยาก
• ปัญหาทางเดินอาหาร
• โรคพาร์กินสัน
• ความทุกข์ทางจิตใจ รวมทั้งภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
• โรคที่เกี่ยวกับความเครียด
• เรกิยังช่วยให้คุณเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดได้ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มการฟื้นตัวของคุณใน
• ภายหลัง
• 
  

• เรกิทำงานอย่างไร?

•       ผู้ฝึกเรกิทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างคุณกับแหล่งที่มาของพลังงานพลังชีวิตสากล พลังงานไหลผ่านมือของผู้ปฏิบัติงานถึงคุณ
•       "ผู้ป่วยกำหนดกระแสพลังงานจากมือของผู้ปฏิบัติงานโดยใช้เฉพาะสิ่งที่ต้องการเท่านั้น" บอดเนอร์กล่าว “สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ป่วยรู้ว่าเรากำลังสนับสนุนพวกเขาเฉพาะในสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่าสิ่งที่เราคิดว่าพวกเขาต้องการ ทำให้เป็นความสมดุลที่สมบูรณ์แบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย”
•    จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเซสชันเรกิ
•       การรักษาเรกิโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที ระหว่างเซสชั่น คุณจะนอนบนโต๊ะนวดที่สวมเสื้อผ้าเต็มตัว ขณะที่ผู้ฝึกเรกิของคุณค่อย ๆ วางมือ ฝ่ามือลง บนหรือเหนือร่างกายของคุณในตำแหน่งที่มีพลังงานเฉพาะ พวกเขาใช้ตำแหน่งมือที่แตกต่างกัน 12 ถึง 15 ตำแหน่ง“ระยะเวลาที่ผู้ปฏิบัติงานออกจากมือในแต่ละตำแหน่งนั้นพิจารณาจากการไหลของพลังงานผ่านมือของพวกเขาในแต่ละตำแหน่ง” บอดเนอร์อธิบาย
• 
  

  เรอิกิแตกต่างจากการบำบัดด้วยการสัมผัสอื่นๆ ตรงที่ไม่มีการกดทับ การนวด หรือการจัดการที่เกี่ยวข้อง

  ฝึกเรกิ ด้วยขั้นตอน ดังนี้ (ไล่ไปตามจักระ ทั้ง7)

• ตำแหน่งมือ 1:  เริ่มการบำบัดเรอิกิด้วยตนเองโดยวางมือเข้าหากันในท่าสวดมนต์ที่ตรงกลางหน้าอก ใต้คางของคุณ ดู รูปภาพ 1 วางมือของคุณไว้ในตำแหน่งนี้สักครู่หนึ่งหรือสองขณะโดยเพ่งสมาธิไปที่การหายใจเข้าและออก อีกครั้งหนึ่ง ให้หายใจเข้าช้าๆ และลึกๆ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย
  
  ตำแหน่งมือ 1 (1-2 นาที)

• ตำแหน่งของมือ 2:  ค่อยๆ วางมือทั้งสองไว้บนศีรษะ ดู รูปภาพ 2 หายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนคลาย มุ่งความสนใจไปที่มือของคุณบนหัวของคุณ ปล่อยให้ตำแหน่งมือนี้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและผิวหนังบนศีรษะของคุณ
  
  ตำแหน่งมือ 2 (2 นาที)

• ตำแหน่งของมือ 3:  ค่อยๆ วางมือทั้งสองข้างไว้เหนือดวงตาของคุณ ดู รูปภาพ 3 อีกครั้ง หายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนคลาย มุ่งความสนใจไปที่มือของคุณเหนือดวงตาของคุณ เพื่อความสบายในการหายใจ พยายามอย่าวางมือเหนือจมูก ปล่อยให้มืออยู่ในตำแหน่งนี้เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณหน้าผาก ใบหน้า และดวงตาของคุณ
  
  ตำแหน่งมือ 3: (2 นาที)

• ตำแหน่งมือ 4:  ค่อยๆ วางมือขวาไว้บนคอและมือซ้ายวางเหนือหัวใจ ดู รูปภาพ 4 หายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนคลายต่อไป มุ่งความสนใจไปที่ลำคอและหัวใจของคุณ เพื่อความสบายใจ พยายามอย่าวางมือด้วยแรงกดทับคอมากเกินไป ปล่อยให้มืออยู่ในตำแหน่งนี้เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอ ลำคอ และหน้าอกส่วนบนของคุณ
  
  ตำแหน่งมือ 4 (2 นาที)

• ตำแหน่งของมือ 5:  ค่อยๆ วางมือของคุณไว้ใต้เส้นเต้านม นิ้วกลางควรสัมผัสกัน ดู รูปภาพ 5 หายใจเข้าช้าๆ และลึกๆ ต่อไป มุ่งความสนใจไปที่บริเวณใต้หน้าอกของคุณ ปล่อยให้ตำแหน่งมือนี้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณกึ่งกลางหน้าอกและซี่โครงของคุณ
  
  ตำแหน่งมือ 5 (2 นาที)

  
  

  ตำแหน่งของมือ 6:  เลื่อนมือของคุณให้กว้างหนึ่งมือจากแนวเต้านมของคุณ วางมือเบาๆ เหนือท้องส่วนบนและในบริเวณช่องท้องแสงอาทิตย์ ดู รูปภาพ 6 หายใจเข้าช้าๆ และลึกๆ ต่อไป มุ่งความสนใจไปที่ส่วนนี้ของร่างกาย ปล่อยให้ตำแหน่งมือนี้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อในบริเวณนี้
  
  ตำแหน่งมือ 6 (2 นาที)

  
  

  ตำแหน่งมือ 7:  ค่อยๆ วางมือของคุณเหนือบริเวณท้องและสะดือ ดู รูปภาพ 7 หายใจเข้าช้าๆ และลึกๆ ต่อไป มุ่งความสนใจไปที่ส่วนนี้ของร่างกาย ปล่อยให้ตำแหน่งมือนี้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อในบริเวณนี้
  
  ตำแหน่งมือ 7 (2 นาที)

  
  

  ตำแหน่งมือ 8:  ค่อยๆ วางมือทั้งสองบนกล้ามเนื้อไหล่ ดูรูปที่ 8 หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ ต่อไป มุ่งความสนใจไปที่ส่วนนี้ของร่างกาย และปล่อยให้ตำแหน่งมือนี้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อในบริเวณนี้
  
  ตำแหน่งมือ 8 (2 นาที)

  
  

  ตำแหน่งมือ 9:  ค่อยๆ วางมือเหนือเส้นรอบเอวบริเวณไต ดู รูปภาพ 9 หายใจเข้าช้าๆ และลึกๆ ต่อไป มุ่งความสนใจไปที่ส่วนนี้ของร่างกาย และปล่อยให้ตำแหน่งมือนี้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อในบริเวณนี้
  
  ตำแหน่งมือ 9 (2 นาที)

  
  

  ตำแหน่งมือ 10:  ค่อยๆ วางมือบนฝ่าเท้าหรือฝ่าเท้า ดู รูปภาพ 10 เพื่อให้ตำแหน่งนี้ง่ายขึ้น ให้ข้ามขาซ้ายของคุณเหนือเข่าขวาไปถึงเท้าซ้ายของคุณ ข้ามขาขวาของคุณเหนือเข่าซ้ายไปถึงเท้าขวาของคุณ อย่าเครียดตัวเอง แค่ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
  
  ตำแหน่งมือ 10 (2 นาที)

• แหล่งที่มาบทความ Credit Link: Reiki Self-Treatment