2 สรรพคุณสมุนไพร สูตรลับดูแลตัวเองง่ายๆ รักษาบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลโรค #สมุนไพรไทย #วิธีรักษาโรคโควิด-19
- สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งบางชนิดอาจมีราคาแพง และต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งอาจหาซื้อได้ยากในท้องถิ่นนั้น
- ให้ผลการรักษาได้ดีใกล้เคียงกับยาแผนปัจจุบัน และให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้มากกว่าแผนปัจจุบัน
- สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นเพราะส่วนใหญ่ได้จากพืชซึ่งมีอยู่ทั่วไปทั้งในเมืองและ ชนบท
- มีราคาถูก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาแผนปัจจุบัน ที่ต้องสั่งซื้อจากต่าง ประเทศเป็นการลดการขาดดุลทางการค้า
- ใช้เป็นยาบำรุงรักษาให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง
- ใช้เป็นอาหารและปลูกเป็นพืชผักสวนครัวได้ เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตำลึง
- ใช้ในการถนอมอาหารเช่น ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกานพลู
- ใช้ปรุงแต่ง กลิ่น สี รส ของอาหาร เช่น ลูกจันทร์ ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารพวก ขนมปัง เนย ไส้กรอก แฮม เบคอน
- สามารถปลูกเป็นไม้ประดับอาคารสถานที่ต่าง ๆ ให้สวยงาม เช่น คูน ชุมเห็ดเทศ
- ใช้ปรุงเป็นเครื่องสำอางเพื่อเสริมความงาม เช่น ว่านหางจระเข้ ปรนะคำดีควาย
- ใช้เป็นยาฆ่าแมลงในสวนผัก, ผลไม้ เช่น สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ
- เป็นพืชที่สามารถส่งออกทำรายได้ให้กับประเทศ เช่น กระวาน ขมิ้นชัน เร่ว
- เป็นการอนุรักษ์มรดกไทยให้ประชาชนในแต่ละท้องถิ่น รู้จักช่วยตนเองในการ นำพืชสมุนไพรในท้องถิ่นของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ
- ทำให้คนเห็นคุณค่าและกลับมาดำเนินชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น
- ทำให้เกิดความภูมิใจในวัฒนธรรม และคุณค่าของความเป็นไทย
วันนี้ ผู้เขียนนำสมุนไพรยอดฮอตในยุคนี้ เพราะเป็นกระแสในยุคแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก ผู้เขียนเอง ก็นำสมุนไพรทั้งสองสูตรนี้มาทำเป็นเครื่องปรุงอาหารและเครื่องดื่มรับประทานในช่วงนี้เช่นกัน
สมุนไพรยอดฮอต 2 สรรพคุณ บำรุงรักษาโรคได้ดี
1. สรรพคุณ "ขิงไทย"
“ขิง” สมุนไพรเผ็ดร้อนชนิดนี้แหละที่มีคุณสมบัติต้านโรคหวัด หรือไข้หวัดใหญ่ได้ ดังที่งานวิจัยกล่าวว่า ขิงช่วยปกป้องระบบทางเดินหายใจจากเชื้อโรคต่างๆ ขจัดเชื้อไวรัส นอกจากนั้นการบริโภคขิงยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ เรียกได้ว่าใครเป็นหวัดต้องจิบน้ำขิงนี่แหละดีที่สุด
7. ลดอาการปวดประจำเดือน
คุณสมบัติข้อนี้ผู้หญิงทุกคนควรจำให้มั่น ขิงช่วยลดอาการปวดประจำเดือน! ในการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานขิงวันละ1 กรัมในช่วง 3 วันแรกของการมีประจำเดือนมีอาการปวดน้อยลง การดื่มน้ำขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดช่วงวันนั้นของเดือนได้พอๆ กับกินยาแก้ปวดเลยนะ
8. ลดระดับคอเลสเตอรอล
ขิงสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลไม่ดีในร่างกายได้ มีงานวิจัยกล่าวว่า ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูงรับประทานขิงวันละ 3 กรัมต่อวัน ช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลลดลงอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานนะ
ต้นกระชายแดง จัดเป็นไม้ล้มลุกมีอายุหลายปี มีเหง้าอยู่ใต้ดิน หรืออาจเรียกว่า "หัวกระชาย" หรือ "นมกระชาย" หรือ "กระโปก" ลักษณะทั่วไปเหมือนกันกับกระชายเหลือง แต่จะแตกต่างกันตรงเหง้าและเนื้อด้านในของเหง้า โดยเนื้อจะมีสีเหลืองแกมส้ม ส่วนขนาดของลำต้น ขนาดใบ เหง้าหรือรากจะเล็กกว่ากระชายเหลือง มีความสูงของทรงพุ่มประมาณ 30-80 เซนติเมตร เหง้าเรียวยาว ออกเป็นกระจุก ลักษณะของรากหรือเหง้าสะสมอาหารจะมีลักษณะเป็นแท่งกลม เรียวยาว พองตรงกลางและฉ่ำน้ำ เหง้ามีสีน้ำตาลอ่อนและมีกลิ่นหอมอ่อนไม่แรงเหมือนกระชายเหลือง ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำดี เป็นที่ร่ม และในช่วงฤดูฝนจะแตกยอดขึ้นเหนือพื้นดิน หรืออาจเกิดได้ตลอดทั้งปีหากดินมีความชื้นสูง ส่วนกาบใบมีลักษณะซ้อนกันหลายชั้น มีสีน้ำตาลแดง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ สามารถพบได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ
ใบกระชายแดง มีใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ค่อนข้างยาวหรือเป็นรูปใบแกมหอก โคนใบสอบ ขอบใบขนาน มีความกว้างประมาณ 4-8 เซนติเมตรและยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร แผ่นใบมีสีเขียวเรียบและเป็นมัน ก้านใบเป็นร่อง มีลิ้นใบบางใสที่ส่วนบนของกาบใบ โคนกาบใบและหลังใบมีสีแดงเรื่อ ๆ ส่วนที่กาบใบที่ทำหน้าที่ช่วยห่อหุ้มลำต้นและหลังใบด้านล่าง
ดอกกระชายแดง ดอกออกเป็นช่อ โดยช่อดอกจะยื่นยาวโผล่ขึ้นมาจากกลางยอดระหว่างใบ โดยจะโผล่เฉพาะส่วนที่เป็นกลีบดอกและส่วนของใบประดับ ดอกมีใบประดับหุ้มช่อดอก กลีบเลี้ยงที่โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ส่วนปลายแยกเป็น 3 หยักสั้น ๆ บางใส ส่วนกลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว กลีบดอกมีสีชมพูอ่อน 3 กลีบ กลีบด้านบนมี 1 กลีบ ลักษณะเป็นรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม มีสีชมพูอ่อนถึงสีชมพู ส่วนกลีบด้านล่างมี 2 กลีบ จะอยู่บริเวณใต้กลีบปาก ลักษณะเป็นรูปขอบขนานแกมใบหอก มีปลายแหลม มีสีชมพูอ่อน ๆ ส่วนเกสรตัวผู้ ส่วนที่เป็นกลีบอยู่บนปลายยอดกลีบดอกจะมี 3 หยักแยกจากกัน โดยหยักบนจะมี 2 หยัก มีขนาดเท่ากัน ลักษณะเป็นรูปไข่กลับ ปลายกลม มีสีชมพูอ่อน ส่วนหยักล่างมี 1 หยัก มีขนาดใหญ่กว่าและเป็นรูปไข่กลับ กลางกลีบโค้งคล้ายท้องเรือ ส่วนปลายแผ่ขยายกว้าง ที่ขอบเป็นลอน พื้นมีสีชมพูมีสีแดงแต้มด้วยสีชมพูเข้ม ส่วนริมขอบปากเป็นลอนเล็กน้อย ก้านเกสรสั้น ลักษณะโค้งเล็กน้อย ส่วนเกสรตัวเมียจะมีลักษณะคล้ายกับรูปสามเหลี่ยมหัวกลับ มีสีขาวแกมชมพูอ่อน ที่โคนก้านเกสรจะมีต่อม 2 ต่อม ลักษณะเป็นรูปเรียวยาว และดอกย่อยของกระชายแดงจะทยอยบานทีละดอก
ผลกระชายแดง ผลแก่มีพู 3 พู และมีเมล็ดอยู่ภายในผล
- ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยแก้โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ด้วยการใช้หัวตากแห้งนำมาบดละเอียดละลายผสมกับน้ำผึ้งแล้วปั้นเป็นยาลูกกลอนกินเป็นประจำก่อนอาหารเช้าและเย็น (หัว)
- ช่วยบำรุงกำลัง ทำให้กระชุ่มกระชวย (หัว)
- ช่วยบำรุงระบบประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้น (หัว)
- ช่วยบำรุงกำหนัด แก้กามตายด้าน ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย ด้วยการใช้หัวแห้งนำมาบดผสมกับน้ำผึ้งเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (หัว)
- ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว (หัว)
- ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน (หัว)
- ช่วยรักษาโรคในช่องปากต่าง ๆ แก้ปากเปื่อย ปากแตก มีแผลในช่องปาก (หัว)
- ช่วยรักษามะเร็งเม็ดเลือด จาการวิจัยใหม่พบว่ากระชายแดงเป็นส่วนประกอบในการรักษามะเร็งเม็ดเลือด (BVHJ) ซึ่งมีส่วนผสมดังนี้ กระชายแดงทั้งต้น 50 กรัม, แพงพวยดอกขาวทั้งต้น 50 กรัม, หญ้างวงช้างทั้งต้น 50 กรัม, และสบู่แดงทั้งต้น 50 กรัม นำมาบดรวมกันให้เป็นผง ใช้ชงกับน้ำร้อนดื่มหลังอาหารครั้งละ 2 ช้อนชา วันละ 3 เวลา (ทั้งต้น)
- ช่วยรักษามะเร็งกระดูก (BOE) โดยใช้กระชายแดงนำมาบดให้เป็นผง ใช้กินก่อนอาหารครั้งละ 2 ช้อนชา (ไม่ระบุว่ากินอย่างไร แต่คาดว่าน่าจะใช้ชงกับน้ำร้อนดื่ม) วันละ 3 เวลา อาการจะดีขึ้น (ไม่ระบุว่าเป็นส่วนไหน)
- ช่วยแก้ลมอันเกิดแก่กองหทัยวาตะหรือลมในหัวใจ ที่ทำให้จิตใจระส่ำระสาย แก้อาการใจสั่น (หัว)
- ช่วยแก้อาการปวดมวนในท้อง (หัว)
- ช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ลมจุกเสียดได้ดี มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย E.coli ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการจุกเสียดแน่น (หัว)
- สาร Cineole ในกระชายแดงมีฤทธิ์ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้ จึงช่วยลดอาการปวดเกร็งได้
- ช่วยแก้อาการปวดเบ่ง (หัว)
- ช่วยแก้อาการบิดมูกเลือด (หัว)
- ช่วยรักษาโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ (หัว)
- ช่วยแก้โรคพยาธิ ด้วยการใช้หัวนำมาปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทานก่อนเข้านอนทุกวัน (หัว)
- ช่วยขับระดูขาว แก้มุตกิดระดูขาวของสตรี (หัว)
- น้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการหดตัวของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร
- ป้องกันมะเร็งและช่วยทำให้ตับทำงานกำจัดสารพิษได้ (หัว)
- จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดลระบุว่า สาร Pinostrobin ในกระชายมีฤทธิ์ช่วยต้านการเจริญเติบโตของเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกลาก 3 ชนิด และช่วยต้านการเจริญของเชื้อ Candida albican ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการตกขาวในสตรี
- ช่วยป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม (หัว)
- กระชายแดงมีสรรพคุณที่เหมือนกับกระชายเหลือง โปรดอ่านเพิ่มเติมที่ สรรพคุณและประโยชน์ของกระชาย 49 ข้อ ! (กระชายเหลือง)
- ตามตำราว่านระบุว่าสรรพคุณของกระชายแดงนั้นเหมือนสรรพคุณของกระชายดำทุกอย่าง เพียงแต่ว่าจะมีความพิเศษกว่าก็ตรงที่การนำมาใช้รักษาผู้ที่ถูกคุณไสย โปรดอ่านเพิ่มเติมที่ สรรพคุณและประโยชน์ของกระชายดำ 45 ข้อ !
- หน่ออ่อนสามารถนำมาใช้ปรุงรสในน้ำยาขนมจีน และใช้บริโภคเป็นผัดสดร่วมกับน้ำพริกได้
- มีการนำกระชายแดงมาใช้เพื่อแก้การถูกคุณไสย ด้วยการใช้หัวนำมาโขลกให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน แล้วเสกด้วยคาถาบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ "อิติปิโสภะคะวา จนถึง ภะคะวาติ" ให้ครบ 16 จบ ก่อนนำให้ผู้ถูกคุณไสยรับประทาน หรือนำมาใช้ในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ <<คลิก>> :
โดย อมรรัตน์ บุญฤทธิ์ : Ami Lawyer ผู้เขียนบทความ
ชั้นหนังสือตัวอย่างอ่านฟรี <<คลิก>> Free sample bookshelf <<click>>
ความคิดเห็น