2 กฎวิธีสร้างอิสรภาพทางการเงิน กำจัดหนี้ตลอดกาล #เคล็ดลับฉลาดทางการเงิน

 

เราจะสร้างอิสรภาพทางการเงินได้อย่างไร กำจัดหนี้ หนีจากความจนตลอดกาล ?

คำถามนี้เข้าใจว่าทุกคนอยากมีอิสรภาพทางการเงินเพราะหากเรามีอิสระนั้นหมายความว่า เราสามารถใช้เงินสร้างความสะดวกสะบาย สร้างความสุขให้คนที่เรารักได้ หรือใช้เงินทำสิ่งต่างๆ ในสิ่งที่เราปรารถนาได้

ความจนไม่มีใครปรารถนา ทุกคนอยากออกห่าง และไม่มีใครอยากนึกถึง หรือแม่แต่จะพูดถึง และคำว่าจนก็ยังอยู่ในแผนการของทุกรัฐบาลทุกประเทศ ที่จะต้องแก้ไขปัญหาความยากจนของคนในชาติของตัวเอง  และประเทศไทยถือว่ามีคนจนที่มีจำนวนมาก


2  กฎแห่งผู้มีอิสรภาพทางการเงิน : เคล็ดลับผู้ฉลาดทางการเงิน 

1.   กฎแห่งการไม่มีหนี้  หมดหนี้ชีวิตมีแต่ความสุข

2.   กฎแห่งการเก็บออม  เก็บออม ย่อมเป็นเศรษฐีในอนาคต

ทั้ง 2 กฎนี้ หากคุณทำตาม  แน่นอนชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลง ผู้เขียนรับรองว่าคุณจะมีแต่ความสุข หนีออกห่างจากความจน มีหลักทรัพย์ให้ตัวเอง  สิ่งสำคัญคุณต้องเริ่มต้นศึกษาอ่านหนังสือด้านการเงินและบริการการเงิน  โดยคิดว่าคุณเป็นนักธุรกิจ  กิจการของคุณคือรายได้ที่คุณสร้างขึ้น ไม่ว่าจะทำอาชีพใด ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกจ้างให้คุณคิดอย่างนักธุรกิจไว้เลย นั่นคือ ธุรกิจชีวิตของคุณ คุณต้องรู้จักคำว่าบัญชี งบบัญชีรายรับรายจ่ายของตัวเอง เรามาเริ่มเรียนรู้ทั้ง 2 กฎกัน 

กฎข้อแรก : กฎแห่งการไม่มีหนี้  หมดหนี้ ชีวิตผ่าสุข: เมื่อคุณไม่มีหนี้ คุณย่อมหมดกังวล ชีวิตมีแต่ความสุข

สิ่งแรกคุณจะต้องออกจากวงจรหนี้ แก้ไขหนี้

วิธีแก้หนี้

แก้หนี้อันดับแรก ต้องตัดสินใจ  เราต้องเริ่มต้นจากการตัดสินใจเด็ดขาดจะไม่กลับมามีหนี้อีก  คุณจะต้องสั่งจิตตัวเอง สั่งตัวเองให้ชัดเจน  

หากคุณไม่ตัดสินใจ คุณจะกลับมามีหนี้อีกครั้งและคุณจะไม่สามารถกำจัดหนี้ออกจากชีวิตได้ คุณจะวงเวียนอยู่กับการมีหนี้ตลอดชีวิต ดังนั้น เริ่มต้นชะ ตัดสินใจ

เมื่อคุณตัดสินใจแล้ว  เรามาเริ่มต้นบริหารจัดการหนี้ ดังนี้

1. เจรจากับเจ้าหนี้  

หากคุณมีหนี้จำนวนมาก และอยู่ระหว่างค้างชำระหรือผิดชำระหนี้ หลายๆ เจ้า ขั้นแรกคนต้องวางแผนสร้างโปรแกรมจัดการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้สามารถคืนหนี้ได้  การแก้หนี้ให้ได้ประสิทธิผลยังไม่มีหนี้เยอะมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ผิดนัดชำระหนี้แล้ว แต่ยังมีเงินพอจ่ายได้ เรียกว่า หนี้ดี  ยังไม่เป็นหนี้เสีย

2. สร้างพฤติกรรมใหม่ 

ประเด็นนี้สำคัญมากหนี้เดิมคุณยังมี  แต่คุณไม่เปลี่ยนพฤติกรรมคุณจะสร้างหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นอีก  ดังนั้น การหมดหนี้มันคือนิสัยของคุณ พฤติกรรมคุณ  คุณจะต้องสร้างนิสัยใหม่ ถือเป็นหัวใจในการแก้ไขปัญหาหนี้ เปลี่ยนพฤติกรรม คือ :

สร้างพฤติกรรมด้านวินัยการใช้จ่าย  กฎรู้จักใช้ให้น้อย ให้คุณค่ากับรายการจ่ายทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้กับตัวเอง นำกฎเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับชีวิตในช่วงการบริหารจัดการหนี้จนกว่าหนี้คุณจะหมด และใช้จ่ายเฉพาะปัจจุบัน 4  เน้นสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น หากคุณทำติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง คุณจะเกิดนิสัยใหม่

สร้างพฤติกรรมด้านการเก็บออม กฎเก็บออมก่อนใช้ หารายได้มาเท่าไรก็แล้วแต่สิ่งแรกคุณจะต้องเก็บก่อนจ่าย  คือ ไม่ว่าจะมีรายได้มาจากทางไหนและไม่ว่าจะเท่าไร สิ่งแรกสร้างนิสัยเก็บออมไว้ก่อนเสมอ โดยหักเก็บไว้เสมอขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 10%

สร้างพฤติกรรมด้านพัฒนาเรียนรู้และเพิ่มทักษะอาชีพใหม่ๆ ให้ตัวเองตลอดเวลา กฎเพิ่มทักษะอาชีพใหม่ๆ ความตระหนักรู้พัฒนาตัวเองย่อมสร้างชีวิตใหม่ให้คุณเสมอ หลายคนทำงานอาชีพเดียว แต่สำหรับมหาเศรษฐีพวกเขาทำงานมากว่า 1 อย่าง ดังนั้น จึงมีรายได้หลายทางและหากธุรกิจที่หนึ่งมีปัญหาเขายังมีธุรกิจอื่นรองรับได้ ดังนั้น การสร้างพฤติกรรมพัฒนาเรียนรู้และสร้างทักษะอาชีพให้กับตัวเองมากกว่า 1 สิ่ง หาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเองคุณจะมีความสุข สนุกสนาน รายได้วิ่งเข้ามาหลายทาง  

3. กำจัดหนี้นอกระบบออกให้หายไป 

หลายคนมีหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ โดยหนี้ในระบบเป็นหนี้มูลค่าสูง เช่น หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรเครดิต แต่หนี้นอกระบบเป็นหนี้ส่วนบุคคลที่เทียบกับหนี้บ้าน รถ ที่มูลค่าเป็นหลักล้านไม่ได้ แต่สำหรับหนี้นอกระบบมูลค่าไม่สูงแต่สิ่งสำคัญดอกเบี้ยมันสูงเกินกว่าเงินต้น หลายคนทำลายตัวเองเพราะหนี้นอกระบบ

จากข่าวที่โด่งดังหรือข้อมูลสถิติของรัฐบาล พบว่าจะเห็นว่าคนที่เป็นหนี้นอกระบบมีสัดส่วนลดลงในปัจจุบันเห็นได้ชัดมากหากเทียบกับยุคสมัยก่อน ที่สำคัญหากไปตามต่างจังหวัดแถบไม่มี หรือมีน้อยมากให้เทียบกับสมัยก่อน 

ผู้เขียนจำได้ว่าสมัยก่อนคนต่างจังหวัดเมื่อทำนาเสร็จไม่มีเงินส่ง ธกส. มักไปกู้ยืมเงินนอกระบบไปใช้หนี้ แต่ปัจจุบันเริ่มหายไป สังเกตจากญาติของผู้เขียนเอง สมัยก่อนมักไปกู้ยืมนอกระบบ ตั้งแต่เจอพิษเศรษฐกิจและโรคโควิด-19 การใช้ชีวิตเริ่มระมัดระวังกันมากขึ้นไม่กู้นอกระบบ แต่พวกเขายังมีการกู้ยืมกันอยู่เพียงแต่หันมาใช้การกู้เงินในระบบผ่านธุรกิจเช่าซื้อ (Leasing) บริษัทที่ให้บริการทางการเงินแต่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) หรือ Local NoN bank ที่เป็นแบบท้องถิ่นผุดเป็นดอกเห็ด ซึ่งเขาก็ทำการตลาดเจาะระดับฐานรากให้เข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น  

เรามารู้จักนิยมคำว่า "ความจน คนจน"   นิยามของความจน คืออะไร 

เรื่องนิยามของความจนนั้น หากเรานิยามตามนักเศรษฐศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ก็นิยามเรื่องของความยากจนโดยเอาตัวรายได้มาเป็นตัววัด หรือมิฉะนั้นก็เอาตัวทรัพย์ที่ขายในตลาดได้มาเป็นตัววัด เพราะฉะนั้น โดยวิธีการวัดแบบนักเศรษฐศาสตร์นั้น  

และหากจะให้นิยาม "ความยากจน"  อันที่หนึ่งก็คือ "การไม่มีทางเลือก"

ในทัศนะขอความคิดที่ว่า "ไม่จน" เพราะ"มีทางเลือก" แต่ว่าแน่นอน มนุษย์มีทางเลือกในขีดที่จำกัดเสมอ ตั้งแต่สมัยก่อน เราจะเห็นคนในสมัยอยุธยาไม่สามารถที่จะไปเป็นนักคอมพิวเตอร์ได้เพราะสมัยนั้นไม่มีนั้นเอง ซึ่งหนีไม่พ้นที่พวกเขาจะต้องเป็นเกษตรกร แต่สมัยนี้เราทุกคนมีทางเลือกสิ่งใหม่ๆให้กับชีวิตของเราได้เสมออยู่ที่คุณจะเลือกให้ตัวเองจนตลอดชีวิต หรือหนีออกจากความจน

ผู้เขียนขอสรุปว่า หากเราต้องการอิสรภาพทางการเงิน สิ่งสำคัญต้องแก้ไขพฤติกรรมที่ทำให้จน โดยความจนเกิดจากนิสัยนำพาเสมอ ลักษณะความจนมี 2 ประเภทคือ

ประเภทที่ 1  จนชั่วคราว

คนกลุ่มนี้ เมื่อได้รับการช่วยเหลือ เขาก็พยายามสร้างให้ตัวเองออกห่างจากความจน ไม่กลับมาจนอีก เช่น เคยจนเพราะมีหนี้ คดีความ ก็จะพยายามหาเงินชำระ และกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ประเภทที่ 2 จนถาวร

คนกลุ่มนี้  ช่วยเหลือให้เงินเท่าไรก็ไม่หมด เพราะไม่สร้างนิสัยของผู้สำเร็จ เคยกับการขอความช่วยเหลือ ได้รับความช่วยและมักก็กลับไปจนเหมือนเดิม หากไม่ทำอะไรเลย ดังนั้น คนกลุ่มนี้ จะจนแบบถาวร

ผู้เขียนอยู่ในครอบครัวคุณพ่อแม่ยากจนทำนาทำสวนมีหนี้สินจำนวนมาก หนี้จำนวนมากเกิดจากการทำนาทำสวน ยิ่งทำยิ่งจนลงมีหนี้สินมากขึ้น สมัยผู้เขียนยังเป็นเด็กพ่อแม่ต้องวิ่งไปยืมเงินญาติพี่น้องเพื่อมาจ่ายหนี้ ธกส. และต้องขายที่ดินบางส่วนเพื่อใช้หนี้ หากเรายังคงเลือกเส้นทางอาชีพเดิมเราก็เป็นเหมือนเดิม  แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ของผู้เขียนไม่เลือกเส้นทางเดิมท่านไม่ยอมให้ตัวเองเป็นคนจนถาวล  ท่านทั้งสองเลือกหนีออกจากความจนด้วยการหาช่องทางอาชีพใหม่ ผู้เขียนจำได้แม่ผู้เขียนชอบไปเรียนรู้สูตรทำอาหารต่างๆ เพื่อเพิ่มทักษะอาชีพใหม่ให้ตัวเอง จากคนที่ค้าขายไม่เป็น ท่านรักการเรียนรู้ ท่านเลือกอาชีพใหม่ด้วยวิธีการค้าขาย นี่คือ เลือกเปิดรับสิ่งใหม่ การที่ท่านเลือกอาชีพใหม่ ทำให้ท่านมีเงินชำระหนี้จนหมด และสามารถนำเงินมาส่งให้ผู้เขียนและน้องสาวเรียนจนจบมหาวิทยาลัยสำเร็จ

คนจน พวกเขามีช่องทางขยับขยายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเสมอ เช่น ที่บางแห่งไม่พอกินก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น  เขาพอที่จะมีทางเลือกอยู่พอสมควร ซึ่งอันนี้เป็นเงื่อนไขที่มีความสำคัญมากๆ

ที่นี้คนพอที่จะมีทางเลือกได้ ก็หมายความว่าจะต้องมี "ฐานทรัพยากร" ซึ่งขอตีความทั้งในแง่  "วัตถุซึ่งจับต้องได้"  ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ ป่า หรืออะไรก็แล้วแต่ และอีกอย่างหนึ่งก็คือ "ความรู้"  ซึ่งเป็น  "สิ่งที่จับต้องไม่ได้" รวมไปถึงความเข้าใจในชีวิต เข้าใจในสิ่งต่างๆ เพราะว่ามนุษย์เรานี้ ถ้าเราเอาความโลภมาเป็นตัวนำแล้ว มันก็จนอยู่ตลอดเวลา อย่างที่พูดว่า “จนที่ใจ” คนที่มีทางเลือกต้องมีทรัพยากรเหล่านี้อยู่พอสมควร

กฎข้อที่สอง : กฏแห่งการเก็บออม สูตรลับการเก็บออมสู่อิสรภาพทางการเงิน คุณสามารถตรวจสอบ และดำเนินการได้ด้วยสูตรด้านล่าง

สูตรแรก : สรุปให้คุณได้รู้ คือ อัตราส่วนความอยู่รอด ที่จะช่วยบอกว่ารายได้จากการทำงานและรายได้จากสินทรัพย์ที่มีอยู่เพียงพอต่อรายจ่ายหรือไม่ ถ้าผลลัพธ์ที่ได้มากกว่า 1 แสดงว่าคุณสามารถอยู่รอดได้ด้วยการทำงานและสินทรัพย์ที่มี สามารถเลี้ยงตัวเองได้สบายๆ

อัตราส่วนความอยู่รอด = (รายได้จากการทำงาน + รายได้จากสินทรัพย์) / รายจ่าย รอดแล้วเมื่อไหร่จะรวย นั้นก็คือ ความมั่งคั่ง  เป็นที่มาของสูตรที่สอง เกี่ยวกับการใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่มาทำให้เกิดรายได้ เช่น ค่าเช่า ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าลิขสิทธิ์ เป็นต้น ถ้าผลลัพธ์มากกว่า 1 แสดงว่าคุณมีอิสรภาพทางการเงินระดับหนึ่งแล้วคะ ไม่ต้องทำงานก็สามารถมีรายได้เพียงพอต่อรายจ่าย

อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากสินทรัพย์ / รายจ่าย   จากสูตรด้านบนเชื่อมั่นว่าหลายคนสามารถ อยู่รอดได้ น้อยคนจะก้าวเข้าไปสู่ความ มั่งคั่งอย่างถาวร อาจเพราะมีสินทรัพย์ไม่เพียงพอจะสร้างรายได้ หรือมีการใช้เงินมาก  คุณสามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตเพื่ออิสรภาพทางการเงินได้ดังนี้

1.  สร้างวินัยให้ตัวเอง วินัยทางการเงินของตัวเอง

2.  มีสติและติดตามการใช้เงิน

3.  หากคุณเก็บแบบเดิมไม่สำเร็จ  เปลี่ยนวิธีการเก็บเงิน

4.  ให้เงินทำงานแทน คือ ต่อยอดเงินออมด้วยการลงทุน ลงทุนแบบฉลาด เลือกลงทุนแบบ passive income ดีที่สุด

หากคุณทำทั้ง 4 ข้อนี้ได้ครบ  รับรองว่า คุณจะมีอิสรภาพทางการเงิน ไม่ใช่เรื่องห่างไกลอีกต่อไปแล้วล่ะ

1. สร้างวินัยให้ตัวเอง วินัยทางการเงินของตัวเอง

สร้างวินัยกับการเงินของตัวเอง

ผู้เขียนเองเคยมีหนี้จำนวนมากมาย  สิ่งแรกที่เปลี่ยนชีวิตผู้เขียน คือ การสร้างวินัยใหม่ จากคนไม่เคยเก็บออมเงิน ผู้เขียนก็เริ่มวางแผนการเงินสร้างวิสัยให้กับตัวเอง ทุกสิ่งต้องเริ่มด้วยก้าวแรก อิสรภาพทางการเงินก็ไม่ต่างกัน และเพื่อที่จะก้าวเข้าไปสู่เส้นทางของอิสรภาพได้นั้นเราจำเป็นต้องมี วินัยเสียก่อน

วินัยทางการเงินคือความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงทำให้ตัวเองต้องจัดการบริการเงินอย่างมีระบบ เช่น การฝากประจำ การออมเงินเป็นสัดส่วน ยิ่งมีวินัยมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งสามารถเก็บเงินง่ายขึ้นเท่านั้น และผลของวินัยทางการเงินที่เห็นได้ชัดที่สุดคือคุณจะสามารถเห็นเงินก้อนจากความพยายามที่สั่งสมมาอย่างชัดเจน

ตัวอย่างง่ายๆ คือคุณยอมออมเงินเดือนละ 3,000 บาททุกเดือน เป็นเวลา 1 ปี สิ้นปีคุณก็เห็นเงิน 36,000 บาทในบัญชีแล้ว

แต่คุณจะทำไม่ได้เลยหากขาดระเบียบการใช้จ่าย ขาดวินัยทางการเงิน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลง สร้างนิสัยและวินัยทางการเงินที่ดีได้ ด้วยการฝากประจำ เช่น การฝากกับสถาบันการเงินหรือผลิตภัณฑ์ฝากประจำ 24 เดือนที่มีเงื่อนไขปลอดภัยภาษี เลือกให้เหมาะกับคุณ เพิ่งเริ่มต้นทางการเงินและต้องการต่อยอดอย่างเห็นผลเงินฝากประจำปลอดภาษี

2. มีสติและติดตามการใช้เงิน

คุณจะต้องมีสติและติดตามการใช้เงิน  การออมที่ดีต้องมาคู่กับการวางแผนที่รัดกุม หากต้องการอิสรภาพทางการเงินจริงๆ คุณต้องมีสติในการใช้เงิน คุณจะต้องมีการติดตามการใช้เงินของตัวเองว่า มีการใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองเกินไปหรือเปล่า เพื่อความสบายใจระยะยาว  ซึ่งคุณสามารถติดตามการใช้เงินได้ด้วยการบันทึกรายรับรายจ่าย ที่ปัจจุบันทำได้ง่ายๆ มีเครื่องทุนแรกช่วย เช่น แอปพลิเคชั่น

การติดตามการใช้เงินจะไม่แสดงประสิทธิภาพเลย หากคนบันทึกไม่ได้ใส่ใจการใช้เงิน ดังนั้น นอกจากติดตามแล้วควรมานำวิเคราะห์ดูว่าค่าใช้จ่ายส่วนใดที่ไม่จำเป็นหรือใช้เกินความจำเป็นก็ลองปรับลด แต่ถ้าทำแล้วไม่ได้จริงๆ ก็อาจต้องหารายได้เพิ่มแทน เพื่ออิสรภาพทางการเงินที่แท้จริงในอนาคต

3. หากคุณเก็บแบบเดิมไม่สำเร็จ  เปลี่ยนวิธีการเก็บเงิน

หากคุณไม่เคยเก็บเงินได้เลยในแบบเดิมๆ  ให้คุณเปลี่ยนวิธีเก็บเงินใหม่ หลังจากติดตามการใช้เงินแล้วก็ได้เวลาการ เปลี่ยนตัวเองใหม่”  ยกระดับเกรดให้ตัวเอง เปลี่ยนวิธีการเก็บเงินของคุณใหม่ เพราะการเก็บเงินแบบธรรมดาๆ นั้นอาจไม่เพียงพอ

หากคุณไม่ชอบเก็บเงินเล็กๆ น้อยๆ รอไว้เก็บปลายปีได้รับเงินก่อนหรือมันน้อยไป คุณรู้หรือไม่ มหาเศรษฐีคนร่ำรวยพวกเราเริ่มจากการเก็บเล็กๆ น้อยๆจนมันใหญ่ขึ้น และเปลี่ยนชีวิตพวกเขาหลายคนเกิดจากครอบครัวยากจนพลิกชีวิตจากการออมเล็กๆ น้อยๆ และรู้จักการลงทุนให้เงินทำงานแทน

เรามารู้จัก สูตรการออม  ลองมาคำนวณดูกัน

ลองคำนวณจากสมการ (รายได้ที่ต้องทำงาน + รายได้ที่ไม่ต้องทำงาน) - รายจ่าย = เงินออม ก็จะพบว่าหากเก็บเงินแบบปกติ เช่น ฝากออมทรัพย์ หรือหยอดกระปุกเป็นหลัก เงินออมนั้นก็อาจไม่ค่อยจะเพิ่มขึ้นสักเท่าใดนัก

คุณสามารถเปลี่ยนวิธีการเก็บเงินให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นกว่าธรรมดาได้ โดยออมก่อนใช้จ่ายทีหลัง วิธีนี้จะช่วยให้เราเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

ออมก่อนใช้  สูตรลับมหาเศรษฐีทั่วโลกใช้หลักเกณฑ์นี้กันทั่วโลก  หากวันนี้ คุณอยากเปลี่ยนแปลงชีวิต คุณจำเป็นต้องใช้สูตรเดียวกับคนสำเร็จทำคนร่ำรวยพวกเขาใช้แบบไหนเราต้องเดินตาม คือ การออมก่อนใช้นั้นเอง

แต่ถ้าอยากให้เงินเติบโตที่สุด มีอิสรภาพทางการเงินได้จริง สิ่งที่เราหนีไม่พ้นเลยคือการลงทุน เพราะนั้น หมายความว่าคุณกำลังให้เงินทำงานแทนคุณ ขยายดอกผลให้กับคุณ  เรื่องนี้ไม่ใช่พึงมี แต่มีมาเนินนาน 

4. แน่นอนคุณเคยได้ยิน คำว่า ต่อยอดเงินออมด้วยการลงทุน

อิสรภาพทางการเงินจะเกิดไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีการลงทุน  ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น 
หากคุณพิจารณาดี ๆ  อัตราส่วนความมั่งคั่ง 

จากสูตรผู้ร่ำรวยมหาเศรษฐี พวกเขาใช้สูตรนี้ สร้างความสำเร็จอย่างรวดเร็ว  ผู้เขียนเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินและบริหารหนี้ให้กับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 20 ปี สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนเห็นพวกเขาเก็บเงินในขณะที่ยังมีหนี้สิน ฉะนั้น แม้พวกเขามีหนี้หลักร้อยล้าน แต่สิ่งที่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยทำ คือ การบริหารเงินโดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากธุรกิจเก็บออมแบบชาญฉลาด ตัวอย่างเช่น นำเงินออมไปลงทุนซื้อตราสารหนี้ เงินออมประจำดอกเบี้ยสูงๆ หรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ กองทุนต่างๆ  สูตรสร้างสินทรัพย์สร้างความมั่งคั่งสู่อิสรภาพทางการเงินอันแท้จริง  

ฉะนั้น แม้คุณจะมีหนี้สินคุณสามารถเก็บเงินออมได้ หลายคนเมื่อมีหนี้มักไม่เก็บเงิน โดยคิดว่าตัวเองเก็บเงินไม่ได้อ้างว่า "เก็บไม่ได้ ฉันมีหนี้เยอะแยะมากมาย จะเอาเงินที่ไหนไปเก็บ ยังไม่มีจะกินเลย"  หากคุณยังคิดแบบนี้และไม่เริ่มเก็บเงิน คุณจะไม่มีทางไปสู่อิสรภาพทางการเงิน ไม่หลุดพ้นจากหนี้โดยเด็ดขาด   

มาดูสูตรลับความมั่งคั่ง ผู้สำเร็จผู้มั่งคั่งร่ำรวยทุกคน มองหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์มากกว่าทิ้งเงินไว้แค่ในบัญชี พวกเขาจะนำเงินไปสร้างให้เป็นหลักทรัพย์ให้ใหญ่ขึ้น  

สูตรลับคำนวณความมั่งคั่งดังนี้

อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากสินทรัพย์ / รายจ่าย

จะเห็นได้ว่าคุณต้องมี รายได้จากสินทรัพย์ระดับหนึ่งเสียก่อน และรายได้เหล่านั้นจำเป็นต้องลงทุน

สูตรหากคุณต้องการ Passive Income มาก ยิ่งต้องมี Active Income มากด้วยเช่นกัน ทั้งสองอย่างต้องทำงานสอดประสาน การหมุนเวียนของเงินจึงมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ทั้งนี้ การลงทุนคนต้องเลือกและเรียนรู้ก่อนเสมอ และคุณต้องเข้าใจ คือ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้สำเร็จคนร่ำรวยพวกเขาไม่ได้ลงทุนช่องทางเดียว แต่พวกเขาเลือกการลงทุนหลายทาง เป็นการกระจายการลงทุนไปหลากหลายสินทรัพย์ เช่น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ หุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น

แต่ถ้าคุณมีเงินไม่มากพอ ก็สามารถหาตัวช่วยอย่างกองทุนรวมที่แต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  มีจัดจำหน่ายอยู่ โดยเลือกนโยบายตามที่ต้องการได้ ขั้นต่ำในการลงทุนขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละกองทุน ถ้ายิ่งมีเงินออมมาก โอกาสที่จะลงทุนได้หลากหลายและกระจายความเสี่ยงในการลงทุนยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

คนมากมายอยากรวยขึ้น เพื่อจะได้อิสรภาพทางการเงิน แต่รู้หรือไม่ว่าอิสรภาพที่แท้ จริงไม่ได้หมายความถึงความร่ำรวย หลายคนมีเงินหลักร้อยล้านพันล้านแต่ก็ไม่มีอิสระเพราะอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง คือ การที่คุณสามารถอยู่อย่างมีความสุขได้แม้ว่าคุณจะไม่ทำงานก็ตาม


นี่คือ 2 กฎวิธีนำพาชีวิตสู่อิสรภาพทางการเงิน หนีออกจากความจนที่ผู้เขียนนำมาแบ่งปันในบทความนี้ หากผู้อ่านสนใจแนวจิตวิทยาแก้ไขปัญหาการเงินเคล็ดลับบริหารการเงิน แก้ไขปัญหาหนี้  สามารถติดตามอ่านบทความต่อไปได้คะ


แก้ไขปัญหาหนี้ สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้คะ  

บทความที่เกี่ยวข้อง

หนีความจนตลอดกาล ทางลัดปลดหนี้ สร้างเงินล้านแรก ภายใน 6 เดือน #วิธีหมดหนี้ บริหารการเงิน


ออกแบบตกแต่งปกและภาพประกอบ  จาก : canva : จาก pixabay

 โดย  อมรรัตน์ บุญฤทธิ์ : Ami  Lawyer  ผู้เขียนบทความ & Ebook 





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คู่มือหมอดูตาทิพเงินล้าน พลังตัวเลขพญานาคราช 999 #ดูดวงชะตา

คัมภีร์เปลี่ยนชีวิต สะกดจิต ผลิตเงินล้าน รวมสูตรลับความสำเร็จ กฎแรงดึงดูด [Law of Attraction] พิสูจน์สิ่งมหัศจรรย์ด้วยตัวคุณเอง #ภาพยนตร์สารคดีวิทยาศาสตร์ " I Am : Tom Shadyac "

ความลับจินตนาการ ดึงดูดสร้างความสำเร็จ !! โดย Neville Goddard [เนวิลล์ ก็อดดาร์ด] บุคคลสำคัญแห่งโลก