จิตมีพลัง ฤทธิ์ทางใจ (จิตผู้รู้ ตาที่3) กับ จิตหลงรู้อย่างละเอียด ฝึกจิตให้เห็นสภาวธรรมแท้ตามจริง


 จิตมีพลัง ฤทธิ์ทางใจ (จิตผู้รู้ ตาที่3) กับ จิตหลงรู้อย่างละเอียด ฝึกจิตให้เห็นสภาวธรรมแท้ตามจริง

“มีฤทธิ์ทางใจ” ถูกเรียกและใช้สอนตามคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม(ท่าซุง) ในหลักสูตรวิชา “มโนมยิทธิ”

“มโนมยิทธิ” แปลความตามตัวอักษรได้ว่า “มีฤทธิ์ทางใจ” คือ การรู้ การเห็น การสัมผัส ตามความเป็นจริงด้วยใจ 

หลักสูตร วิชชา “มโนมยิทธิ” นี้ ปรากฏมีรจนาไว้ในพระคัมภีร์วิสุทธิมรรค ของพระพุทธโฆษาจารย์ เมืองสะเทิมหรือเมืองสุธรรมวดี ซึ่งท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ที่โบราณาจารย์ท่านรับรองไว้แล้ว 

ดังนั้น จึงขอยืนยันบอกกล่าวไว้ ณ ที่นี้ว่า วิชชา “มโนมยิทธิ” ไม่ใช่วิชานอกรีต นอกพุทธบัญญัติ มโนมยิทธิ ไม่ใช่โอภาส โอภาส คือ แสงสว่างเฉย ๆ อันเป็นผลจากการเจริญสมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนาในหมวดสุกขวิปัสสโก 

มโนมยิทธิ ไม่ใช่อุปาทาน อุปาทาน คือ การคิดเอาไว้ก่อนว่าภาพนั้นเป็นอย่างไร แล้วก็เห็นแบบนั้นพร้อมทั้งยึดภาพนั้นไว้ไม่ปล่อย มโนมยิทธิ ไม่ใช่การสะกิดจิต ถ้าเป็นการสะกดจิต ทุกคนต้องรู้เห็นเหมือนกันหมด และทุกคนที่เรียนพร้อมกัน ต้องทำได้ แต่ความจริงผลไม่เป็นเช่นนั้น บางคนเพียรเป็นปี ๆ ยังไม่ได้ก็มี บางคนเริ่มปฏิบัติครั้งแรกก็ได้แล้ว และความชัดเจนของการรู้เห็นก็แตกต่างกันด้วย 

กล่าวโดยนัยแล้ว มโนมยิทธิ เป็นส่วนหนึ่งของ อภิญญา ในพระพุทธศาสนา ถ้าจะแยกศัพท์แล้ว “ญา” แปลว่า รู้, “อภิ” แปลว่า ยิ่ง หรือ อย่างยิ่ง 

ดังนั้น “อภิญญา” ก็มีความหมายว่า “ความสามารถในการรู้ ยิ่งกว่าอารมณ์ของบุคคลธรรมดา จะรู้ได้” นั่นคือ บุคคลธรรมดาจะมีความรู้เสมอ ไม่ได้ เช่น เรื่อง ผี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน รู้เรื่อง เทวดา พรหม นิพพาน จนกระทั่งสามารถท่องเที่ยวไปตามภพภูมิต่าง ๆ สถานที่ต่าง ๆ ได้ หรือว่าถ้าอยากรู้อารมณ์จิตของบุคคลใด ใครพูดที่ไหนว่าอย่างไร ใครคิดอย่างไร เราก็รู้ได้ คำว่า “ไม่รู้” ไม่มี ถ้าจิตใจของท่านเข้าถึงอารมณ์ของอภิญญาจริง ๆ 

และอารมณ์ของอภิญญาจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องอาศัย สมาธิจิต นั่นคือ ความมีฤทธิ์ทางใจ จะมีแก่ท่านได้ ต้องอาศัยการฝึกจิต 

กระทำจิตของตนเองให้มีฤทธิ์ มีอำนาจสามารถรู้เห็นด้วยใจ หรือสัมผัสด้วยใจได้ทุกอย่าง ที่พึงรู้และพึงเห็น เป็นต้นว่า รู้เห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของสัตว์ที่วนเวียนอยู่ในภพภูมิต่าง ๆ จนกว่าจะออกจากวัฏฏสงสาร สู่แดนพระนิพพานเสียได้ รู้เห็นเหตุอันนำให้ไปเกิด ไปจุติปฏิสนธิ ในภพภูมิต่าง ๆ 

และรู้ปัจจัยที่นำไปสู่ความหลุดพ้นคือพระนิพพาน การเห็น เป็นการรับสัมผัสหรือเห็นด้วยจิต 

ที่บางท่านเรียกว่า เห็นด้วยตาใน มิใช่มองเห็นด้วยตาเนื้อ อันเป็นหนึ่งในอวัยวะสุดหยาบของขันธ์ ๕ ร่างกายของสัตว์โลก การไป ท่องเที่ยวตามแบบ มโนมยิทธิ นี้ 

มิได้ยกเอากายหยาบไป แต่ใช้ กายใน หรือ อทิสสมานกาย ซึ่งมีสภาพเป็นทิพย์ และมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันไป ตามความสะอาดของจิตของแต่ละบุคคลในขณะนั้น เช่น เป็นมนุษย์ เทวดา พรหม หรือ วิสุทธิเทพ 

 อ้างอิงค์แหล่งที่มาบทความ อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ วัดจันทาราม(ท่าซุง) โดย http://www.watthasung.com/ ความหมายโดยทั่วไป คำว่า ตาที่ 3 ของแต่ละศาสตร์ตามความเชื่อ ตาที่ 3 (ตาที่สาม) ไม่ใช่ตาเนื้อ แต่เป็นตาภายในที่ทำให้เห็นสิ่งเหนือปกติวิสัย แสดงถึงการรับรู้ระดับสูงในทางจิตวิญญาณ และเป็นสัญลักษณ์ของการรู้แจ้ง รวมถึงการหยั่งรู้พิเศษ เช่น การเห็นนิมิต ตาทิพย์ รู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ล่วงหน้า เป็นต้น

ตาที่ 3 หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า third eye เป็นจุดจักระที่ทุกคนรู้จักมากกกที่สุดเพราะเป็นจุดที่เชื่อกันว่าหากเปิดแล้วจะทำให้เราเห็นอดีต/อนาคต หรือสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเล่า และหากเราต้องการเปิดจะต้องทำยังไง เปิดแล้วเห็นผีจริงๆไหม เอมมีคำตอบให้กับทุกคนค่ะ ในศาสนาฮินดูถือว่า อาชญาจักระ คือตาที่สาม เป็นจักระแห่งจิต คือดวงตาแห่งพุทธิปัญญา มนุษย์มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ในความฝันก็โดยอาศัยอาชญาจักระนี้ และพลังงานทางจิตวิญญาณจากสิ่งแวดล้อมจะเข้ามาในร่างกายผ่านจักระนี้ด้วย อาชญาจักระยังเป็นจุดบรรจบของนาฑิทั้งสามก่อนจะไหลขึ้นสู่สหัสราระซึ่งเป็นจักระสูงสุด ผู้ปฏิบัติโดยเพ่งที่จักระนี้จะสามารถพ้นจากทวิภาวะได้ ลัทธิอนุตตรธรรมเรียกตำแหน่งตาที่สามว่าจุดญาณทวาร เชื่อว่าวิญญาณจะเข้าออกร่างกายผ่านทางประตูนี้ และเป็นทางเดียวที่วิญญาณจะใช้ผ่านเพื่อกลับคืนสู่สวรรค์ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของวิญญาณทุกดวง ลัทธินี้ยังเชื่อว่าตำแหน่งจุดญาณทวารถูกปิดเป็นความลับสวรรค์มาแต่โบราณ แม้แต่ผีสางเทวดาก็ไม่รู้ แต่อริยชนผู้บรรลุแล้วในอดีตได้แสดงเป็นปริศนาไว้ในคัมภีร์ต่าง ๆ ลัทธิอนุตตรธรรมเชื่อว่าเฉพาะผู้ได้รับอาณัติแห่งสวรรค์จากพระแม่องค์ธรรมเท่านั้นที่จะเปิดจุดญาณทวารได้ การเจิมเปิดจุดญาณทวารจะกระทำในพิธีถ่ายทอดเบิกธรรม ซึ่งดำเนินพิธีเป็นความลับ ไม่เปิดเผยให้คนนอกรับรู้ ผู้ที่รู้แล้วห้ามนำไปบอกต่อ เพราะเชื่อว่าจะถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษ สัญลักษณ์ตาที่สามและความหมาย


ตาที่สามหรือที่เรียกว่าตาภายในหรือตาแห่งปัญญาเป็นสัญลักษณ์ลึกลับที่มักเกี่ยวข้องกับการตรัสรู้ สัญชาตญาณ และความสามารถในการรับรู้นอกเหนือจากสายตาปกติ 

มักเกี่ยวข้องกับประเพณีทางจิตวิญญาณ เช่น ศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา ซึ่งแสดงถึงประตูสู่อาณาจักรภายในและพื้นที่แห่งจิตสำนึกอันสูงส่ง เชื่อกันว่าการตื่นหรือเปิดตาที่สามสามารถนำไปสู่ความสว่างทางจิตวิญญาณและสติปัญญาได้ ความหมายทางจิตวิญญาณของตาที่สาม ในทางจิตวิญญาณ 

ตาที่สามมักเกี่ยวข้องกับการมองเห็น การมีญาณทิพย์ การรับรู้ล่วงหน้า และประสบการณ์นอกร่างกาย ถือเป็นศูนย์กลางของพลังจิต ปัญญาทางจิตวิญญาณ และสัญชาตญาณ 

ในการฝึกโยคะและการทำสมาธิ ดวงตาที่สามเกี่ยวข้องกับจักระที่ 6 หรือที่เรียกว่าอัจนะหรือจักระคิ้ว ซึ่งว่ากันว่าควบคุมสัญชาตญาณ จินตนาการ และความสามารถในการมองเห็นภาพที่ใหญ่ขึ้น สัญลักษณ์: นิมิต, การทิพย์, การรู้ล่วงหน้า, ประสบการณ์นอกร่างกาย, พลังจิต, สัญชาตญาณ, จินตนาการ, การรับรู้ในภาพรวม ความหมายของรอยสักตาที่สาม
 

รอยสักตาที่สามมักเป็นสัญลักษณ์ของการแสวงหาการตื่นรู้และการตรัสรู้ทางจิตวิญญาณ มันแสดงถึงความปรารถนาของแต่ละบุคคลที่จะเปิดใจไปสู่ระดับจิตสำนึกและภูมิปัญญาภายในที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถแสดงถึงความสามารถในการมองเห็นนอกเหนือจากที่ตาเปล่ามองเห็นได้ ซึ่งแสดงถึงสัญชาตญาณ การมองการณ์ไกล และการรับรู้ นอกจากนี้ยังสามารถเป็นสัญลักษณ์ของการป้องกันพลังชั่วร้ายอีกด้วย สัญลักษณ์: การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ, การตรัสรู้, จิตสำนึกที่สูงขึ้น, ภูมิปัญญาภายใน, สัญชาตญาณ, การมองการณ์ไกล, การรับรู้, การปกป้อง วีธีการ เปิดดวงตาที่สาม โดยฝึกสมาธิมีหลายหลายรูปแบบ ตัวอย่างอาทิ ในศาสนาฮินดู ดวงตาที่สามเป็นสัญลักษณ์ของสภาวะหยั่งรู้ขั้นสูงที่คุณใช้ในการรับรู้ถึงสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้เทคนิคการฝึกสมาธิแบบดั้งเดิมจะช่วยให้คุณได้เปิดจักระนี้ และเข้าใจจักรวาลรอบตัวอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ยิ่งขึ้น หาจักระดวงตาที่สาม.

จักระคือพลังงานที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของร่าง โดยพื้นฐานแล้วจักระคือวงล้อพลังงานที่เรียงตามแนวกระดูกสันหลัง จักระมีอยู่ด้วยกัน 7 ตำแหน่ง และแต่ละจักระก็จะส่งผลต่อสภาวะทางกาย ทางใจ และทางจิตวิญญาณในส่วนที่ต่างกัน ดวงตาที่สามเป็นจักระที่ 6 จักระดวงตาที่สามอยู่ตรงสมองส่วนหน้าสุดระหว่างดวงตาทั้งสองข้างและอยู่เหนือจมูกขึ้นมาพอดี เวลาทำสมาธิ พยายามกำหนดจิตไปที่จักระนี้ เพราะมันจะช่วยให้คุณมองเห็นโลกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม. การฝึกสมาธิเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเปิดดวงตาที่สามได้ดีที่สุด การตระหนักถึงความคิดมากขึ้นจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงความกระจ่างแจ้งทางใจที่สัมพันธ์กับดวงตาที่สามได้ดีขึ้น เป้าหมายหลักของการทำสมาธิก็คือ การให้จิตใจได้จดจ่ออยู่กับความคิดหรือวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อคุณเริ่มฝึกสมาธิใหม่ๆ คุณต้องเลือกสภาพแวดล้อมที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ บางคนรู้สึกสงบและจิตใจเปิดโล่งมากกว่าเวลาที่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ถ้าคุณเองก็เป็นอย่างนั้น คุณก็อาจจะเลือกฝึกสมาธิกลางแจ้ง หาที่ที่อุณหภูมิเหมาะสมและสามารถนั่งได้โดยไม่มีใครมารบกวน คุณสามารถฝึกสมาธิในบ้านได้เช่นกัน หลายคนกำหนดพื้นที่ในบ้านให้เป็นที่สำหรับฝึกสมาธิโดยเฉพาะ ซึ่งโดยทั่วไปก็จะมีเบาะรองที่ช่วยให้นั่งบนพื้นได้สบายขึ้น และอาจจะจุดเทียนและเปิดเพลงผ่อนคลายไปด้วย จำไว้ว่าการฝึกสมาธิเป็นกระบวนการส่วนบุคคล คุณควรเลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับคุณ กำหนดอิริยาบถ. ความสัมพันธ์ระหว่างใจและกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำสมาธิ ยิ่งกายสบายเท่าไหร่ คุณก็สามารถกำหนดการทำสมาธิไปที่วัตถุหรือความคิดได้ดีขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปอิริยาบถที่เชื่อกันว่าทำให้เกิดสมาธิได้มากที่สุดก็คือ การนั่งขัดสมาธิบนพื้นแบบใดแบบหนึ่ง เลือกวัตถุสำหรับทำสมาธิ. วัตถุสำหรับทำสมาธิเพื่อให้จิตจดจ่อ เช่น ฝึกอาศัยกายและนามในร่างกายเราเอง หรืออุปกรณ์อื่น บางแหล่งอาศัยธรรมชาติรอบตัวเราในการฝึก แหล่งที่มาบทความ วีกิพีเดีย

บทวิจารณ์โดย Alexander Lys, ML ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยสัญลักษณ์และจิตวิทยาความฝัน ผู้เข้าร่วมที่ได้รับการรับรองในการสัมมนาและหลักสูตรทางจิตวิทยามากมาย ผู้เขียนบทความเกี่ยวกับจิตวิทยาหลายร้อยบทความ รวมถึงการศึกษาเกี่ยวกับสัญลักษณ์ในความฝันและตำนานจากมุมมองทางวิทยาศาสตร์

ฟังคลิปวีดีแบ่งปันแชร์ประสบการณ์ ฝึกจิตวิญญาณ ให้มีกำลังฤทธิ์ทางใจ ตามลิงค์ด้านล่าง



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความลับจินตนาการ ดึงดูดสร้างความสำเร็จ !! โดย Neville Goddard [เนวิลล์ ก็อดดาร์ด] บุคคลสำคัญแห่งโลก

คัมภีร์เปลี่ยนชีวิต สะกดจิต ผลิตเงินล้าน รวมสูตรลับความสำเร็จ กฎแรงดึงดูด [Law of Attraction] พิสูจน์สิ่งมหัศจรรย์ด้วยตัวคุณเอง #ภาพยนตร์สารคดีวิทยาศาสตร์ " I Am : Tom Shadyac "

คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซีพลังจิตเงินล้าน สูตรลับกฎแรงดึงดูด ( Law of attraction) #อาชีพสร้างรายได้หลักแสนถึงหลักล้านรวดเร็ว